พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาปกรณ์ รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลงานด้านการท่องเที่ยวว่า รัฐบาลได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย ปี 2558-2560 โดยเน้นส่งเสริมตลาดท่องเที่ยววิถีไทย ซึ่งในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 29.8 ล้านคน อยู่อันดับที่ 11 ของโลก สร้างรายได้เข้าประเทศ 1.44 ล้านล้านบาท หากรวมนักท่องเที่ยวไทยด้วยจะมีรายได้รวมทั้งสิ้น 2.23 ล้านล้านบาท
ส่วนในปี 59 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวน 33 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.28% จากปี 58 และเพิ่มขึ้น 33.01% จากปี 57 สร้างรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท และหลังจากเริ่มโครงการ 12 เมือง ต้องห้าม..พลาด ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และได้เพิ่มเติมนโยบายไทยเที่ยวไทยด้วยการขยายเป็น 12 เมืองต้องห้าม .. พลาดพลัส พร้อมทั้งกำหนดให้จังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักแห่งใหม่ และได้จัดทำ Digital Tourism และ Tourism Intelligent Center รองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวให้พร้อมใช้ในเดือนกันยายนนี้
นอกจากนี้ยังส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยวใหม่ ได้แก่ ASEAN Connect เน้น CLMV เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยว ไทย-เมียนมา ไทย-กัมพูชา และไทย-ลาว ในปีนี้กำลังจะทำเส้นทางเชื่อมโยง ไทย-เวียดนาม ส่งเสริม Sports Tourism Super Yacht และ Lady's Journey
ด้านนโยบายได้ทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 เพิ่มจาก 5 คลัสเตอร์ เป็น 8 คลัสเตอร์ และกำลังจะทำคลัสเตอร์อื่นๆ ต่อไป รวมทั้งได้จัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานวันท่องเที่ยวโลกในเดือน ก.ย.59 ซึ่งจะมีผู้บริหารจากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ UNWTO และผู้แทนจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมงานกว่า 250 คน และเตรียมจัดงานมหกรรมเรือสำราญ "ไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ 2016", จัดกิจกรรม Air Race One ในปลายปี 59, กำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว, จัดอบรมมัคคุเทศก์ และกวดขันจับกุมบริษัทนำเที่ยวผิดกฎหมาย รวมถึงบริษัทนอมินีทัวร์ศูนย์เหรียญ
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยวมากมาย อาทิ CNN โหวตให้ประเทศไทยติดอันดับ 1 อาหารอร่อยที่สุดในโลก, กทม.ได้รับการจัดอันดับ 2 เมืองที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก และ กทม.ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินมากสุด, จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวอันดับ 2 จากนิตยสาร Travel & Leisure, หาดอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ติดอันดับ 4 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย จาก Trip advisor, จังหวัดภูเก็ตติดอันดับ 8 ของโลก เป็นเกาะสวยแดนสวรรค์
ทั้งนี้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้ส่งเสริมสนับสนุน กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่พิเศษ สร้างงานในพื้นที่เพิ่มขึ้น 18% ทำให้มีเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง มีการบริหารจัดการชุมชนและสภาพแวดล้อมที่ดี ประชาชนในชุมชนมีระดับความอยู่ดีมีสุขผ่านเกณฑ์มาตรฐานสูงถึง 83.59% และเพื่อให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเอเชียที่มีคุณภาพ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ได้เน้นนโยบาย Top of Mind ส่งผลให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 5 ของเอเชีย รองจากญี่ปุ่น จีน เกาหลี และสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเทียบในอาเซียน ประเทศไทยถูกจัดเป็นอันดับ 1 ด้านพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่การขายมากที่สุด โดยรวมของอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2558 มีมูลค่าประมาณ 113,523 ล้านบาท