นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรียกร้องให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญโดยยึดหลักการของร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชามติเป็นหลัก หากมีสิ่งที่ผิดไปจากหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญก็จะเกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคต และควรที่จะรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านเพื่อที่จะใช้ข้อมูลจากหลายภาคส่วนซึ่งได้สะท้อนเป็นข้อมูลประกอบในการยกร่างฯ
"พรรคประชาธิปัตย์ย้ำเสมอว่าหากมีสิ่งใดที่ทาง กรธ.ต้องการความเห็นจากพรรคฯ ก็พร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และควรจะเปิดเผยข้อมูลในการยกร่างกฎหมายออกมาเป็นระยะๆ เพื่อให้ได้แสดงความคิดเห็น ส่วนสาระสำคัญใดที่ทำให้พรรคการเมืองมีการพัฒนาขึ้น หรือมีการกำหนดกรอบอัตราโทษที่จะลงโทษแก่พรรคการเมืองหรือนักการเมืองที่เข้าสู่อำนาจโดยการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหรือทุจริตในการเลือกตั้งที่สูงขึ้นได้ก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทาง กรธ.ยกร่างกำหนดกรอบลงโทษได้อย่างเต็มที่" นายราเมศ กล่าว
รองโฆษก ปชป. กล่าวว่า มีบางกรณีที่ไม่ควรให้อำนาจในการวินิจฉัยตัดสินลงโทษอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพียงองค์กรเดียว ควรให้ศาลเข้ามาเป็นผู้พิจารณาตัดสิน อย่างเช่น การตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคการเมือง แต่หากมีสิ่งใดที่จะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งก็ควรที่จะระบุไว้ให้เต็มที่เช่นกัน
รองโฆษก ปชป.ได้ยกตัวอย่างกรณีการกำหนดช่วงระยะเวลาในการใช้สิทธิลงคะแนนเสียงของประชาชนที่จากเดิมได้กำหนด เวลา 08.00 น. ถึง 15.00 น. ซึ่งมีการเสนอว่าควรที่จะขยายระยะเวลาการใช้สิทธิออกไปเป็นเวลา 08.00 น. ถึง 18.00 น. ซึ่งไม่ควรต่ำกว่า 10 ชั่วโมง ประเด็นนี้เกิดจากการพูดคุยเสนอของนายชวน หลีกภัย เมื่อครั้งได้พบกับนายสุพจน์ ไข่มุกด์ กรธ.โดยมีเจตนาเพื่อต้องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น และควรจะใช้กับการเลือกตั้งในทุกระดับ