นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอในการจัดทำโครงการเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" (ปี 2560-2563) ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี, อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา ให้เป็นเมืองต้นแบบที่มีการพัฒนาในลักษณะของพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะให้มีการลงทุนจากภาคเอกชนที่สามารถสร้างงานและสร้างรายได้ไปยังพื้นที่ใกล้เคียง และเพิ่มพื้นที่ปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ มีเป้าหมายจะพัฒนา อ.หนองจิก ให้เป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร, พัฒนา อ.สุไหงโกลก ให้เป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนระหว่างประเทศ และพัฒนา อ.เบตง ให้เป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน สำหรับเป้าหมายในการพัฒนามี 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะเร่งด่วน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ประกาศให้พื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี, อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะ เพื่อให้เกิดความชัดเจนของขอบเขตและการพัฒนาเมืองต้นแบบรองรับสิทธิประโยชน์การลงทุน มาตรการการคลังและการเงินตลอดจนมาตรการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่ลงทุนในพื้นที่ 3 อำเภอเป็นกรณีพิเศษ และเมื่อสามารถเปิดพื้นที่เศรษฐกิจนำร่องใน 3 อำเภอเป็นรูปธรรมแล้วให้ขยายผลการพัฒนาไปยังพื้นที่ใกล้เคียงที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในเรื่องการดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยจะประกาศเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะเพิ่มเติมต่อไป นอกจากนี้ ให้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเมืองต้นแบบฯ ภายใต้ คปต. โดยมี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งได้มีการเห็นชอบในหลักการโครงการลงทุนภายใตเมืองต้นแบบ จำนวน 63 โครงการ ในกรอบวงเงิน 5,175 ล้านบาท โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปี 2560 ซึ่งโครงการที่จะต้องเร่งดำเนินการตั้งงแต่ในปี 60 มี 22 โครงการ วงเงิน 1,190 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ ศอ.บต. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เร่งพิจารณาความเหมาะสมในการจัดสถานที่ตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) รวมทั้งมอบหมายให้ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า กำหนดพื้นที่ปลอดภัยให้ครอบคลุมพื้นที่ อ.หนองจิก และเร่งจัดทำแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ส่วนการดำเนินงานในระยะถัดไป มอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาความเหมาะสมในการจัดตั้งกองทุน เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในระยะยาวให้ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะลงทุนในพื้นที่ และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป นายณัฐพร กล่าวด้วยว่า นอกจากแผนงาน 63 โครงการภายใต้โครงการเมืองต้นแบบแล้ว ยังมีแผนงานโครงการของภาคเอกชนที่น่าสนใจ เช่น อ.หนองจิก เอกชนแสดงความสนใจลงทุน 12,000-15,000 ล้านบาท ในโครงการโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม โรงงานแยกไข โรงงานบรรจุน้ำมันพืช เป็นต้น
ส่วน อ.เบตง เป็นการลงทุนของชุมชนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล รวมทั้งธุรกิจท่องเที่ยว และ อ.สุไหงโกลก ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาออกแบบความเหมาะสมในการพัฒนาเมืองการค้าชายแดน เช่น การตั้งเมืองการค้าปลอดภาษี, สุไหงโกลกคอมเพล็กซ์ เป็นต้น