นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เผยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาเพิ่มงบประมาณในการดำเนินการประมาณ 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณลงแต่ละจังหวัดรวม 19,600 ล้านบาท และงบประมาณกลุ่มจังหวัดอีก 8,400 ล้านบาท โดยจะมีการพิจารณารายละเอียดอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมกราคม 2560
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายให้ทำงานในเชิงรุก โดยมอบหมายให้แต่ละจังหวัดนำเสนอของดีประจำจังหวัด และพัฒนาสินค้าด้วยการส่งเสริมด้านนวัตกรรมเพิ่มเติม และให้ส่งกลับมาที่ประชุมพิจารณาในเดือนมกราคม 2560
เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าหากแต่ละจังหวัดสามารถเสนอจุดขายเป็นของตัวเองได้จะทำให้สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตขึ้น โดยในที่ประชุมฯ ได้ยกตัวอย่างจังหวัดลำปางที่มีสับปะรดขึ้นชื่อซึ่งต้องคิดหาแผนเพิ่มมูลค่าสินค้า หรือน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนทีขึ้นชื่อของจังหวัดลำพูนก็ควรพัฒนาศักยภาพให้เทียบเท่าออนเซ็นของประเทศญี่ปุ่น
ส่วนการทำงานยุทธศาสตร์จังหวัด และยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ต้องมีการวางแผนในเชิงลึก ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระดับตำบลและอำเภอและเสนอมายังระดับจังหวัด
นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาถึงเรื่องหลักเกณฑ์และแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 4 ปี ระหว่างปี 2561-2564 ซึ่งตรงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ก่อนที่จะปรับแผนเป็นระยะ 5 ปี ให้สอดคล้องกับระยะเวลาตามแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ
โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้แต่ละจังหวัดจัดทำแผนพัฒนาให้สอดคล้องกับนโยบายระดับชาติ ทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 และทำงานในรูปแบบประชารัฐบูรณาการทั้งจากระดับส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น ทำงานร่วมกับภาคเอกชน