นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระ หลังนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ของ กรธ.เป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้นว่า การร่างกฎหมายลูกทำไปเพื่อส่วนรวม เพราะหากคิดแต่ผลประโยชน์ตัวเองและใช้อารมณ์จะไม่เกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ ส่วนที่ยังไม่มีการเผยแพร่รายละเอียดไปนั้น เนื่องจากต้องรอให้ทุกอย่างได้ข้อยุติก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ยืนยันว่าไม่ได้มีการหมกเม็ด
ทั้งนี้เหตุผลในการกำหนดคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระที่มีความเข้มข้นขึ้นนั้น เป็นเพราะว่าองค์กรเหล่านี้จะเป็นเสาหลักที่จะประคับประคองการเมืองไปในทางที่ดีและถูกต้อง ดังนั้นเมื่อเป็นเสาหลัก กรธ.จึงกำหนดให้เขามีอำนาจไว้เยอะ ผู้ที่จะเข้ามาใช้อำนาจนี้จึงต้องซื่อสัตย์ สุจริต มีความเป็นกลาง ความกล้าหาญ มีภูมิหลังที่สูงพอสมควร กรธ.จึงต้องกำหนดคุณสมบัติเหล่านี้เอาไว้อย่างเข้มข้น
ส่วนเรื่องคุณสมบัติของ กกต.ว่าจะสามารถให้ดำรงตำแหน่งต่อได้หรือไม่ โดยกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล นายมีชัย กล่าวว่า ทำไม่ได้ เพราะว่าในร่างรัฐธรรมนูญนั้นระบุชัดเจนแล้วว่าถ้าขาดคุณสมบัติแล้วก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไปโดยทันที ดังนั้นการเขียน พ.ร.ป.ที่เกี่ยวข้องก็ต้องยึดรัฐธรรมนูญ
"ทาง กรธ.คงจะกำหนดให้ กกต.ชุดเดิมนั้นอยู่ในตำแหน่งไปพลางก่อนจนกว่าคณะกรรมการสรรหาองค์กรอิสระจะมาชี้ว่า กกต.ผู้นั้นขาดคุณสมบัติ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีคณะกรรมการสรรหาฯ ก็ต้องสรรหาคณะกรรมการสรรหาฯ กันก่อน ถ้าหากว่ามีการชี้ว่าขาดคุณสมบัติก็ต้องดูว่าแล้ว กกต.จะเหลืออยู่กี่คน ถ้าเหลืออยู่ 4-5 คน เขาก็ยังสามารถทำงานได้ แต่ถ้าหากน้อยกว่านั้น กกต.ก็คงต้องทำงานเท่าที่จำเป็น และต้องมีการเร่งสรรหาสมาชิกใหม่โดยเร็ว" นายมีชัย กล่าว
ในส่วนองค์ประกอบของ กกต.ที่เพิ่มมาอีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายนั้น นายมีชัย กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ของ กกต.ที่ กรธ.กำหนดให้นั้นจะเป็นในแง่ของการตรวจจับการทุจริตการเลือกตั้ง การใช้เงินทองทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีอาญา ดังนั้นอยากจะเพิ่มคนที่มีความรู้ทางกฎหมาย โดยเฉพาะคนที่มีประสบการณ์ทางด้านงานตุลาการมาช่วยเหลือตรงนี้ด้วยจะได้ไม่ต้องกังวลกับข้อกฎหมายมาก ส่วนอีก 5 คนที่เหลือจะมาจากหลากหลายที่