พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังล่าสุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 2 จุด ส่งผลให้มีได้รับบาดเจ็บ 5 รายว่า ทางการข่าวได้มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ แต่จำเป็นจะต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ซึ่งได้กำชับแม่ทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานในพื้นที่จะต้องช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม และอยากให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสให้มากขึ้น
อนึ่ง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (17 พ.ย.) เกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์ซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องในถังแก๊สมาจอดบริเวณหน้าร้านสหกรณ์ชุมชนวัดปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี แล้วจุดชนวนระเบิด ส่งผลให้มีชาวบ้านและทหารพรานได้รับบาดเจ็บรวม 5 ราย และคนร้ายได้ลอบงวางระเบิดชุด รปภ.ครู ขณะลาดตระเวนเส้นทางบริเวณถนนสาย 42 มาถึงสามแยกเข้าหมู่บ้านตะมะยูง พื้นที่บ้านอีโย๊ะ หมู่ 5 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ศาสนสถาน แต่มุ่งเน้นที่จะกระทำต่อเจ้าหน้าที่ทหาร ไม่เกี่ยวข้องกับการที่มีการปรับกำลังในพื้นที่ขณะนี้ และที่ผ่านมามีตนเองได้มีการพูดคุยกับทางการมาเลเซียถึงการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากต้องการเห็นเป็นรูปธรรมและมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การสร้างรั้วชายแดน และปัญหาบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งส่วนตัวอยากให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมมาดูแลปัญหาดังกล่าว