ศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้องคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล"และพวก 11 คน ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาทนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีปฏิญญาฟินแลนด์ ตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ชี้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต และติชมด้วยความเป็นธรรม
วันนี้ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.1818/2549 ที่พรรคไทยรักไทย และ นายทักษิณ โจทก์ที่ 1-2 ยื่นฟ้อง นายสนธิ ในฐานะ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว.กทม. นายชัยอนันต์ สมุทวณิช นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระและคอลัมนิสต์ บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบดาวเทียม ASTV นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล นายพชร สมุทวณิช นายขุนทอง ลอเสรีวานิช กรรมการ บ.ไทยเดย์ฯ บมจ. แมเนจอร์ มีเดีย กรุ๊ป (MGR) น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ และนายปัญจภัทร อังคสุวรรณ ผู้ดูแลเว็บไซต์แมเนเจอร์ เป็นจำเลยที่ 1-11 ฐานหมิ่นประมาทและดูหมิ่นผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24-28 พฤษภาคม 2549 พวกจำเลยร่วมกันจัดเสวนา เรื่อง"ปฏิญญาฟินแลนด์ ยุทธศาสตร์ครองเมืองของไทยรักไทย" ถ่ายทอดสดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV และเว็บไซต์ผู้จัดการ หมิ่นประมาทโจทก์ว่าต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไปสู่การปกครองในระบอบทักษิณ โดยมุ่งหมายเข้าบริหารประเทศตามปฏิญญาฟินแลนด์
โดยศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า การเสวนาของจำเลยที่ 1-4 เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือประชาชนย่อมกระทำได้ตามประมวลกฎมายอาญา มาตรา 329(3) จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ดังนั้น เมื่อการเสวนาของจำเลยที่ 1-4 ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท จำเลยที่ 5-9 และ 11 ที่โจทก์ระบุว่าเป็นผู้ร่วมจัดเสวนาและนำเอาถ้อยคำไปเผยแพร่ จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทเช่นกัน