พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ว่า ส่วนตัวมีความพอใจกับการปรับ ครม.ในครั้งนี้ เพราะเป็นการคิดเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นการปรับให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการปรับในตำแหน่งที่ว่างลง โดยเน้นการบริหาราชการตามโรดแมพ ระยะที่ 2 ปี 59-60 สอดรับกับแนวทางปฏิรูป
นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนอย่ากังวล หรือให้ความสำคัญในตัวบุคคลมากเกินไป และขอให้มั่นใจการทำงานของรัฐบาลที่เป็นไปตามนโยบาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทหาร ข้าราชกาลก็ต้องบริหารงานภายใต้แนวทางและความร่วมมือ รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจาก ประชาชนและภาคเอกชน และจากฝั่งการเมือง นอกจากนี้ยังได้ย้ำการทำงานที่ต้องมีผลสัมฤทธิ์ สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนกับประชาชน และ เดินหน้าไปตามยุทธศาสตร์ชาติ
ส่วนกระแสข่าวปรับตำแหน่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกจาก ครม.นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีต้องมองว่าบุคคลนั้น ๆ มีข้อบกพร่องหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวไม่เคยคิดที่จะปรับ พล.อ.ประวิตรออกจากตำแหน่งใน ครม. หากใครที่เห็นว่า พล.อ.ประวิตร มีข้อบกพร่องก็ไปหามา
"ผมไม่เคยคิด ท่านทำงานดีบกพร่องตรงไหน จะว่าท่านอย่างโน้นอย่างนี้ไปหาหลักฐานให้ผม ถ้าหาไม่ได้อย่าพูด ผมไม่เคยคิดปรับท่านอยู่แล้ว"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับการปรับเปลี่ยน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ไปดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมนั้น ไม่มีจุดมุ่งหมายใดเป็นพิเศษ แต่เพื่อความเหมาะสม ส่วนเรื่องคดีต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายสุวพันธ์ก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น
ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางทำงานกับรัฐมนตรีใหม่ โดยในปี 60 มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางไปจากเดิมที่รองนายกรัฐมนตรีเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนทุกทุกเรื่อง จะเปลี่ยนมามีผู้ช่วยรัฐมนตรีมากขึ้น ส่วนรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงในงานที่เกี่ยวข้อง หรือที่เรียกว่า Inner Cabinet จะต้องลงไปคลุกในรายละเอียดมากกว่าเดิม
"ยกตัวอย่างเรื่อง IUU ที่ผ่านมาท่านรองนายกฯประวิตร เป็นประธานคณะกรรมการเรื่องนี้ วันนี้ต้องเป็น รมว.เกษตรฯ รัฐมนตรีว่าการจะมีงานมากขึ้น"
ทั้งนี้ แนวทางการทำงานของ ครม.จะเน้นที่ตัวรัฐมนตรีมากขึ้น และมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำกับดูแล เพื่อให้รองนายกรัฐมนตรีสามารถคิดงานแนวทางขับเคลื่อนเรื่องอื่นๆ ที่ยังไม่เกิดขึ้นได้ โดยมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปทำรายละเอียดมาเสนออีกครั้งเพื่อให้เข้าใจการทำงานแบบบูรณาการมากขึ้น