นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงการผ่องถ่ายงานจากรองนายกรัฐมนตรีไปสู่รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นว่าในช่วงแรกของรัฐบาลนั้น รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงยังไม่ค่อยรู้จักกัน อาจทำให้การประสานงานไม่ราบรื่น จึงให้รองนายกรัฐมนตรีเข้าไปกำกับดูแลกระทรวงแต่ละกลุ่มงาน แต่เมื่อผ่านมา 2 ปี เห็นว่ารัฐมนตรีแต่ละคนมีความคุ้นเคยกันแล้ว นายกรัฐมนตรีจึงอยากให้มีการผ่องถ่ายงานไปสู่ระดับกระทรวงมากขึ้น
พร้อมกันนี้ ได้ปรับงานในส่วนของกำกับดูแลกลุ่มจังหวัดของรองนายกรัฐมนตรีแต่ละคนให้มีความสอดคล้องกับงานที่รับผิดชอบมากขึ้น เช่น กรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ได้ปรับไปดูแลพื้นที่กลุ่มภาคตะวันออก เพื่อสอดรับกับการดำเนินนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
นายวิษณุ ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หลังยังมีกระแสต่อต้าน โดยเห็นว่า รมว.ดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ชี้แจงเรื่องนี้ไปแล้ว
ส่วนข้อเรียกร้องจากหลายฝ่ายที่ต้องการให้รัฐบาลใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหานั้น นายวิษณุ กล่าวว่า การออกคำสั่งตามมาตรา 44 นั้น รัฐบาลจะคำนึงถึงเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หรือเป็นเรื่องที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และต้องไม่เกิดภาระผูกพันในระยะยาว ซึ่งการพิจารณาจะต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ เช่น การออกคำสั่ง ม. 44 กรณีทีวีดิจิตอลนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประชุมหารือเรื่องนี้มาเป็นเวลานานแล้ว