พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำชับเจ้าหน้าที่ให้หามาตรการดูแลการบุกรุกพื้นที่ป่า ในโอกาสที่เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจราชการที่จุดชมวิวบ้านน้ำป้าก หมู่ 7 ตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
"ในวันนี้ต้องมีมาตรการหาขอบเขตพื้นที่ป่าให้ชัดเจน จะต้องมีการปรับพื้นที่ หรือกำหนดพื้นที่ว่าพื้นที่ไหนห้ามมีการบุกรุกอีกต่อไป แล้วจะฟื้นฟูป่ายังไง โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ให้ประชาชนอยู่และทำมาหากิน โดยที่ป่าไม่เสื่อมโทรม" นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังมอบหนังสืออนุญาตให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป.ส.23)
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา 45% มาจากจังหวัดน่าน ขณะที่แหล่งน้ำในจังหวัดน่านกำเนิดมาจากป่า เพราะฉะนั้นชาวบ้านในพื้นที่ต้องช่วยกันรักษาป่าให้ดี พร้อมขอร้องให้ประชาชนที่อยู่อาศัยหรือทำมาหากินในพื้นที่ผิดกฎหมาย หยุดการกระทำ เพราะจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติในอนาคตข้างหน้า โดยสั่งการให้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปสานต่อภารกิจออกเป็นนโยบายของกระทรวงฯ
นายกรัฐมนตรียังแสดงความเป็นห่วงเรื่องการใช้พื้นที่ป่าเสื่อมโทรม และปัญหาของชาวบ้านที่ไม่สามารถใช้พื้นที่ที่มีอยู่ทั้งหมด เพราะขาดแคลนแหล่งน้ำในการทำเพาะปลูก
"ชาวบ้านบางคนมีที่ 100 ไร่ แต่ปลูกข้าวได้ 20 ไร่ ที่เหลือทำนาไม่ได้ เพราะไม่มีน้ำ เราต้องแก้ไขปัญหาตรงนี้ด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พร้อมแนะให้หน่วยงานข้าราชการในพื้นที่หามาตรการช่วยเหลือพร้อมกำหนดระยะเวลาที่คาดหวังให้ประชาชนมีพื้นที่ทำกิน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและต้องการแก้ปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งการเดินทางมาในวันนี้เพราะอยากให้ประชาชนมีพื้นที่ทำกินอย่างถูกต้อง ไม่ต้องการให้ทำผิดกฎหมายเหมือนที่ผ่านมา และจากนี้ไปต้องช่วยกันดูแลป่าไม้ ต้องไม่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าในจังหวัดน่านอีก
ขณะที่รัฐบาลพร้อมแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน เพื่อจะได้ง่ายต่อการแก้ปัญหา สำหรับการทำการเกษตรต้องมีการปรับเปลี่ยนพัฒนาให้เกิดการทันสมัยเพื่อเพิ่มมูลค่า เน้นการทำเกษตรอินทรีย์ และให้นำแนวทางศาสตร์พระราชามาขยายและต่อยอด ซึ่งรัฐบาลจะช่วยส่งเสริมด้านนวัตกรรมเพื่อให้สินค้าเป็นที่สนใจของตลาด
พร้อมกันนี้ยังขอให้ประชาชนลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง อย่ารอความช่วยเหลือ หรือเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นแนวทางประชารัฐตามนโยบายของรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่แต่ละครั้งไม่ได้มาหาเสียง หาผลประโยชน์ หรือต้องการอำนาจ แต่ต้องการดูแลและสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนทั้ง 70 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นแผนในการทำงาน และรัฐบาลต่อไปก็ต้องทำตามแผนดังกล่าวด้วย