นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า หากดำเนินการยกร่างกฎหมายลูกตามรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จทันภายในปีนี้ก็เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ในช่วงปลายปี 60 หรือราวต้นปี 61
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะมีปัจจัยภายนอกส่งผลให้โรดแมพต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมหรือไม่นั้น นายมีชัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังกำหนดอะไรไม่ได้ และเรื่องปัจจัยภายนอกไม่ใช่หน้าที่ของ กรธ.ที่ต้องไปคำนึงถึงเหตุการณ์ภายนอก เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของรัฐบาล กรธ.จะทำหน้าที่ในส่วนของ กรธ.ให้ดีที่สุด
นายมีชัย กล่าวว่า การกำหนดระยะเวลาของโรดแมพไปสู่การเลือกตั้งนั้นขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สำหรับ กรธ.ยืนยันว่าจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน ซึ่งเบื้องต้น กรธ.จะส่งร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ทันทีที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ลงประชามติมีผลบังคับใช้
สำหรับร่าง พ.ร.ป.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นั้น กรธ.จะส่งให้ สนช.ในภายหลังเพราะต้องรอความชัดเจนในการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ กกต.จากที่ประชุม สนช.ก่อนว่าจะมีการปรับแก้เนื้อหาอย่างไร และเสร็จสิ้นเมื่อใด เพราะ พ.ร.ป.ทั้ง 4 ฉบับจะต้องมีเนื้อหาที่สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
การพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับจะเสร็จสิ้นก่อน 240 วันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพรรคการเมือง และ กกต.ว่าจะสามารถปรับตัวตามกฎหมายฉบับใหม่ได้หรือไม่ เพราะหากพรรคการเมืองไม่พร้อมจนทำให้ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ก็จะเป็นปัญหาตามมาได้อีก
แต่หาก สนช.มีมติไม่เห็นชอบกับร่าง พ.ร.ป.ที่เสนอไปก็เป็นหน้าที่ของ กรธ.ที่จะดำเนินการพิจารณาเสนอร่าง พ.ร.ป.ให้ สนช.พิจารณาใหม่จนกว่าจะผ่านความเห็นชอบ แต่เชื่อว่าการพิจารณาจะใช้เวลาไม่นาน เพราะเป็นการแก้ไขเฉพาะในประเด็นที่ไม่เห็นด้วยเท่านั้น
"กรณีเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเกิดขึ้นก็จะเป็นเหตุสุดวิสัย และ กรธ.ต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 10-15 วัน หลังจากนั้นก็ยืนยันร่างกฎหมายที่ กรธ.ส่งไป กรธ.ไม่หวงเหมือนงูจงอางหวงไข่ที่ไม่ให้ใครมาแตะต้อง" นายมีชัย กล่าว