นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เลขาคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคี ปรองดอง (ปยป.) จะเดินทางมาเข้าพบประธาน และรองประธาน สนช. และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เพื่อหารือเบื้องต้นถึงแนวทางการทำงานสร้างความปรองดอง และคาดว่าสัปดาห์หน้าโครงสร้างของอนุกรรมการย่อยของ ปยป. จะมีความชัดเจน และทุกอย่างจะเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยจะมีการรายงานความเคลื่อนไหวต่อสาธารณะ
รองประธาน สนช.ยังเชื่อว่า ทุกฝ่ายอยากให้การทำงานของคณะกรรมการบริหารปยป. ประสบผลสำเร็จ และเชื่อว่ารัฐบาลจะนำผลการศึกษาของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ในอดีต รวมถึงของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาประกอบการพิจารณา และต้องนำบทเรียนในอดีตที่มีทำให้การสร้างความปรองดองติดขัดไม่สำเร็จมาประกอบการพิจารณา
"ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องละทิ้งจุดยืนเดิมๆ มายืนจุดร่วมเดียวกัน เพื่อให้การทำงานของ ปยป. ในการสร้างความปรองดองของประเทศประสบผลสำเร็จ...และเชื่อว่าสังคมต้องการเห็นเครื่องยืนยันความแน่นอน เพื่อแสดงความจริงใจ"
ทั้งนี้ กรรมาธิการการเมือง สนช. ได้ยกร่างพ.ร.บ.อำนวยความยุติธรรมไว้ ซึ่งน่าจะเป็นส่วนช่วยเหลือในการสร้างความปรองดองได้ แต่ที่สุดแล้วควรจะต้องนำข้อเสนออื่น ๆ มาร่วมพิจารณาด้วย
ส่วนการนิรโทษกรรมหรือการอภัยโทษนั้น นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องของหลักการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมมีแนวทางอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่กลุ่มการเมืองปฏิเสธการลงนาม MOU นั้น เชื่อว่าหาก ปยป. มีความจริงจังในการทำงาน และทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ในการพูดคุยเจรจาน่าจะสามารถเปลี่ยนความเห็นได้
"หากแต่ละฝ่ายไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ทุกอย่างก็จะไม่สำเร็จ ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์ว่าสัดส่วนทหารใน ปยป. มีมากเกินไปนั้น ก็ถือเป็นความเห็นที่สะท้อนมา ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะนำไปพิจารณาต่อไป"