พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีบางพรรคการเมืองไม่เข้าร่วมหารือแนวทางปรองดองของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.)ว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดคุยถึงปัญหา และหาแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ หากไม่เข้าร่วมก็เท่ากับว่าไม่ให้ความสำคัญต่อประเทศ แล้วอนาคตจะเป็นรัฐบาลได้อย่างไร
"รัฐบาลให้ทุกคนมีโอกาส เข้ามาพูดจาในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศ และหากพรรคการเมืองไม่ร่วมหารือก็แสดงว่า ไม่มองว่าจะเดินหน้าประเทศกันอย่างไร จะเดินยุทธศาสตร์ชาติ และจะพัฒนาแก้ไขเศรษฐกิจให้ทันต่อสถานการณ์โลกอย่างไร พร้อมกับกล่าวขอบคุณพรรคการเมืองที่ยินดีจะเข้ามาพูดคุยหารือโดยไม่มีการกล่าวอ้างเรื่องส่วนตัว"
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณพรรคการเมืองหลายพรรคที่ให้ความร่วมมือที่จะเข้าร่วมหารือตามแนวทางนี้ แต่หากเมื่อพูดคุยแล้วตกลงไม่ได้สังคมจะเป็นผู้ตัดสินเอง ส่วนรายชื่อโครงสร้างของ ป.ย.ป.ขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จในสิ้นเดือนมกราคมนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอำพน กิติอำพน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้ตกลงที่จะรับหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พีเอ็มดียู) แล้ว ซึ่งส่วนตัวมองว่ามีความเหมาะสม เพราะเข้าใจการทำงานร่วมกับหลายรัฐบาล ที่สำคัญมีความเข้าใจในการขับเคลื่อนประเทศ
สำหรับข้อเสนอให้ นพ.ประเวศ วะสี เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในกรรมการ ป.ย.ป.นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การสรรหาตัวบุคคลยังอยู่ในกระบวนการ โดยให้แนวทางว่าบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการต้องมีความเหมาะสม และตรงกับภารกิจของกรรมการแต่ละชุด ส่วนข้อเสนอให้นำสูตรการปรองดอง 66/23 ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาใช้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องพิจารณาจากสถานการณ์ เพราะในสมัยของ พล.อ.เปรม มีความแตกต่างจากปัจจุบัน เพราะในสมัยก่อนมีเรื่องการต่อสู้ และเรื่องของลัทธิเข้ามาเกี่ยวข้อง มีการใช้อาวุธสงคราม แต่ในวันนี้สถานการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ขณะนี้ปัญหาในตอนนี้ คือ จะทำอย่างไรให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างปกติ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าจะมีวิธีการที่สามารถกระทำได้