นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (30 ม.ค.) ทางสำนักการคลังและงบประมาณ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณในการจัดซื้อกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายในรัฐสภา ปี 2547-2548 สมัยนายโภคิน พลกุล เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิฑูรย์ พุ่มหิรัญ ทำหน้าที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมาให้เพื่อรายงานต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สั่งให้ดำเนินการต่อไป หลังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาเปิดเผยข้อมูลการจ่ายสินบนแก่บุคคลที่อ้างตัวเป็นที่ปรึกษาโครงการติดตั้งกล้อง CCTV ภายในรัฐสภา
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะเป็นการตรวจสอบภายในก่อน แต่หากจำเป็นต้องขอข้อมูลจากสหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะประสาน และยืนยันว่าแม้เรื่องจะเกิดมานานนับ 10 ปี แต่หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบเช่นเดียวกับกรณีสินบนโรลส์-รอยซ์ บมจ. ปตท. (PTT) และบมจ. การบินไทย (THAI) แต่จะแตกต่างตรงที่คดีจัดซื้อกล้อง CCTV ของสภาจะไม่มีอายุความเพราะเป็นเรื่องของการใช้งบประมาณแผ่นดิน และสามารถเอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องย้อนหลังได้ แม้ว่าปัจจุบันจะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว อย่างไรก็ตามพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่จะเข้ามาตรวจสอบ รวมถึง สตง. ซึ่งได้มีการตรวจสอบประจำปีตามปกติ
"หลังทราบข้อมูลแล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งหาข้อมูลโดยเร็ว และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้กำชับไปยังสำนักการคลังและงบประมาณ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งว่า งบประมาณดังกล่าวมีการเบิกจ่ายไปในช่วงใด...แต่ก็ไม่มีใครให้ข้อมูลอะไร เพราะเรื่องมันนานแล้ว ไม่มีใครจำได้" นายสรศักดิ์ กล่าว
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่หนึ่ง กล่าวว่า ได้สั่งการให้เรียกประชุมคณะกรรมการด้านอาคารและระบบความปลอดภัย ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงระบบกล้องต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพื่อให้มีมติในเรื่องนี้ต่อไปว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องผู้บริหารชุดปัจจุบัน แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะกระทบภาพลักษณ์ของรัฐสภา ซึ่งจะดูว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้างทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ
"ขอดูรายละเอียดเบื้องต้นก่อนว่าใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง จะเป็นฝ่ายการเมืองหรือข้าราชการประจำ อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต้องให้ ประธานสนช.ออกคำสั่ง"