แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้เพื่อพิจารณาแนวทางประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากกรณีการขายหุ้น บมจ.อินทัช (INTUCH) หรือเดิมคือ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ให้แก่บริษัทเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ (พีทีอี) จำกัด ผ่านบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ รวมเป็นเงินกว่า 73,000 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะมีมูลค่าภาษีราว 1.6 หมื่นล้านบาท ก่อนที่จะสิ้นสุดอายุความในวันที่ 31 มี.ค.60
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อปี 53 ให้ยึดทรัพย์นายทักษิณ 46,000 ล้านบาท จากการขายหุ้น SHIN และเมื่อมีการขายหุ้น เจ้าพนักงานประเมินภาษีจึงต้องแจ้งประเมินภาษีเงินได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยมีข้อเสนอให้เรียกเก็บภาษีจากบุตรชายและบุตรสาวของนายทักษิณ แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะนายทักษิณเป็นผู้มีรายได้จากการขายหุ้น ขณะที่ รมว.คลัง เคยมีหนังสือถึง สตง.ว่าคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ให้ยึดทรัพย์นายทักษิณจากมูลค่าหุ้นส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นจากวันที่นายทักษิณรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทั้งหมดมาเป็นของรัฐ เมื่อเป็นเช่นนี้ตามหลักกฎหมาย เท่ากับนายทักษิณไม่มีรายได้ดังกล่าวเกิดขึ้นจึงไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาแนวทางที่จะต้องดำเนินการในกรณีดังกล่าว