นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเริ่มต้นนับโรดแมพการเลือกตั้งตามที่มีการคาดการณ์ว่าอาจเกิดขึ้นปลายปี 2561 หรืออีก 20 เดือนข้างหน้า เพราะต้องรอให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้เสียก่อน และต้องนับเวลาในการจัดกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูก 8 เดือน และการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีก 2 เดือน อีกทั้งอาจมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมขึ้นมาพิจารณาอีก 15 วัน แต่ยืนยันว่าระหว่างนี้ กรธ.สามารถพิจารณายกร่างกฎหมายลูก 8 ฉบับไปพลางก่อนเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว
โดย กรธ.จะส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้งให้ สนช.พิจารณาได้ก่อนเมื่อกฎหมายทั้ง 2 ฉบับแรกพร้อม หลังจากนั้นก็จะทยอยส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.ตามมาในภายหลังให้ สนช.พิจารณาเดือนละฉบับ
นอกจากนี้ กรธ. เตรียมหาแนวทางการยกร่างกฎหมายลูกองค์กรอิสระ ห้ามองศ์กรอิสระจัดหลักสูตรการเรียนต่างๆ รวมถึงการเดินทางไปดูงานต่างประเทศด้วย
นายมีชัย กล่าวถึงกรอบการเลือกตั้งที่ต้องดำเนินการภายใน 150 วันนั้นขึ้นอยู่กับวันลงคะแนนเลือกตั้ง ไม่รวมวันประกาศผล แต่หากเกรงว่าจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าต้องประกาศผลภายใน 150 วันหรือไม่ กกต.ก็สามารถเผื่อระยะเวลาในการประกาศผล เพื่อไม่ให้เลยกรอบเวลา 150 วันได้
ประธาน กรธ. กล่าวว่า หากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ระหว่างที่ สนช.ดำเนินกระบวนการถอดถอนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ กระบวนการดังกล่าวต้องยุติลงทันที แต่ไม่มั่นใจว่าจะส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ เพราะกฎหมายจะไม่มีผลย้อนหลัง แต่สามารถดำเนินการตามกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ได้