พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง แถลงภาพรวมในการพูดคุยแนวทางปรองดองในส่วนภาคประชาสังคมช่วง 3 วันที่ผ่านมา (20-22 มี.ค.)ว่า ภาพรวมบรรยากาศเป็นไปด้วยดี และสร้างสรรค์ ทุกองค์กรมีความเข้าใจและมั่นใจในการเสนอข้อมูล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งมองว่าเรื่องปรองดองทุกฝ่ายต้องเป็นกลาง เปิดใจโดยไม่มีอคติเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
พร้อมมองถึงความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ เป็นเรื่องปกติของสังคม แต่บนความขัดแย้งต้องไม่มีเรื่องรุนแรงและทุจริต โดยมุ่งไปที่คนต้องไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น การแก้ปัญหาจึงจำเป็นต้องแก้ที่คน ด้วยการเน้นปฎิรูปการศึกษา กระตุ้นจิตสำนึก ยอมรับสิทธิผู้อื่น ขณะที่รัฐเองต้องให้ความรู้แก่ประชาชนมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสเท่าเทียมกัน พร้อมกันนั้น จำเป็นต้องสร้างเด็กรุ่นใหม่ให้ตระหนักประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน
ทั้งนี้ ยอมรับว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้น ต้องอาศัยเวลา และความเข้าใจ ให้อภัยกัน และสร้างความไว้ใจ
ส่วนการเลือกตั้งยังมองว่าเป็นเพียงกระแสสังคมที่พูดกันไปเอง ขณะนี้สังคมยังมีปัญหา ความรุนแรงอยู่ โดยเฉพาะความรุนแรงทางใจ พร้อมเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ให้มีการเจรจา เปิดเวที ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ทำความเข้าใจกันมากขึ้น และบริหารความขัดแย้งของโครงสร้างทุกองค์กร
อย่างไรก็ตาม เน้นย้ำว่าคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) มีความตั้งใจ และพร้อมเปิดกว้างพูดคุย รับฟังความเห็นทั้งส่วนกลาง และภูมิภาคได้พูดคุย เพราะการให้ความเห็นเป็นประโยชน์ต่อความขัดแย้งที่ผ่านมา วอนทุกฝ่ายอย่าสร้างเงื่อนไขแนวทางสร้างความปรองดอง
สำหรับองค์กรที่ได้เข้ามาร่วมเสนอแนวทางปรองดองแล้ว 11 องค์กร ได้แก่ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา เครือข่ายยุวทัศน์แห่งประเทศไทย สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งชาติ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร/มูลนิธิกระจกเงา
และในวันที่ 24 มี.ค.จะเชิญสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และ กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืนให้ข้อคิดเห็นด้วย