รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สมควรอันสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจ้างนักธุรกิจชาวอเมริกันในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพและโครงการอื่นที่เกี่ยวข้องระหว่างดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ททท.
กรณีดังกล่าวได้มีการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศจนปรากฏตามพยานหลักฐานว่านางจุฑามาศมีทรัพย์สินเป็นเงินที่ฝากอยู่ในบัญชีประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซีย์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีบุตรสาวเป็นผู้ถือครองแทน และการชี้แจงถึงที่มาของเงินดังกล่าวไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังได้ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ประสานกับทางการสหรัฐอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้แล้ว และทางการสหรัฐมีพันธกรณีที่จะต้องคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้รัฐไทยตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ.2003 และสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้องเนื่องจากเป็นทรัพย์สินของรัฐไทยที่เกิดจากการทุจริต ซึ่ง ป.ป.ช.จะได้ประสานกับทางการสหรัฐเพื่อติดตามทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว โดยอาจทำเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐ หรือกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อันจะทำให้คดีนี้เป็นคดีทุจริตระหว่างประเทศคดีแรกที่มีการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจากต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ และเป็นคดีตัวอย่างของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการปราบปรามปัญหาการทุจริตข้ามชาติ โดย ป.ป.ช.จะไม่เพียงแค่มุ่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษแต่ยังเน้นถึงการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกลับคืนสู่แผ่นดินไทย
ทั้งนี้ ในส่วนของคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนางจุฑามาศและบุตรสาวเป็นจำเลยจากการทุจริตเรียกรับสินบนและเอื้อประโยชน์ให้นักธุรกิจชาวอเมริกันในการดำเนินโครงการภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ พ.ศ.2546-2550 และโครงการอื่นที่เกี่ยวข้องนั้น ศาลอาญาได้ทำการสืบพยานโจทก์และจำเลยจนเสร็จสิ้นแล้ว และมีนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 29 มีนาคม 2560 เวลา 09.00 น.
ส่วนการดำเนินคดีในสหรัฐอเมริกา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ดำเนินคดีกับนายเจอรัลด์ กรีน และนางแพทริเชีย กรีน สองสามีภรรยานักธุรกิจชาวอเมริกันในความผิดฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ อันเป็นความผิดตามกฎหมาย Foreign Corrupt Practices Act (FCPA) ของสหรัฐอเมริกา โดยจำเลยทั้งสองได้รับโทษถึงที่สุดแล้ว และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอยู่ระหว่างดำเนินคดีกับนางจุฑามาศและบุตรสาว ในความผิดฐานฟอกเงิน และดำเนินการริบทรัพย์ทางแพ่ง มีการอายัดเงินในบัญชีธนาคารต่าง ๆ ในต่างประเทศของบุตรสาวคือ ในอังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซีย์ และสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่ารวม 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 65 ล้านบาท โดยปัจจุบันทางการสหรัฐอเมริกาได้พักคดีดังกล่าวไว้ เพื่อรอผลการพิจารณาคดีอาญาของศาลนใประเทศไทย