นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ข้อมูลว่ามีการยัดไส้ในร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เพื่อให้มีการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม สนช.ในวาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ว่า เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นการยัดไส้ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อปรากฏเป็นข่าวแล้วจึงได้สั่งการให้กรรมาธิการการพลังงาน สนช. เข้าชี้แจงรายละเอียดต่อกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.)
ทั้งนี้ ส่วนตัวแล้วยังยืนยันในหลักการว่ากรรมาธิการฯ ไม่สามารถทำอะไรนอกเหนือหลักการได้ เพราะต้องพิจารณาตามที่รัฐบาลเสนอมา แต่หากต้องการแก้ไขหรือปรับปรุงในหลักการก็ต้องขออนุญาตจากรัฐบาลก่อน
ขณะเดียวกัน ย้ำว่าวันที่ 30 มี.ค.นี้ สนช.จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่ได้มีการบรรจุระเบียบวาระการประชุมไว้แล้ว โดยจะเป็นการประชุมแบบเปิดเผย ไม่ใช่การประชุมลับ และต้องติดตามดูว่าสมาชิก สนช.จะอภิปรายสนับสนุนหรือคัดค้านร่างกฎหมายนี้อย่างไร
ส่วนกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ระบุว่ามีอดีตนายทหาร 6 คน พยายามแทรกแซงเนื้อหาให้มีการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ในร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมนั้น ประธาน สนช. กล่าวว่า ให้กลับไปถาม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร
ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) ยืนยันว่าไม่ได้มีการล็อบบี้หรือสอดไส้ผลักดันให้มีบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ในร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เพราะหลังจากที่กรรมาธิการฯ เห็นควรให้มีบรรษัทน้ำมันแห่งชาติขึ้นเพื่อจัดการธุรกิจน้ำมันให้รัฐได้ผลประโยชน์โดยตรงก็ได้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอน โดยหารือรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย และเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบถึง 2 ครั้ง อีกทั้งผู้ขอแปรญัตติ ไม่ใช่การผลักดันของอดีตนายทหาร 6 คน ที่เป็น สนช.เท่านั้น เนื่องจากตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้สงวนคำแปรญัตติ เพราะเห็นด้วยที่จะให้รัฐได้เงินจากการขายน้ำมันโดยตรงไม่ต้องแบ่งให้ผู้ถือหุ้นรายอื่น เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ของสัญญาในการแบ่งปันผลผลิต ส่วนที่ระบุไว้ว่าให้จัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติเมื่อพร้อม เพราะไม่ต้องการกำหนดกรอบเวลา เกรงจะเป็นการเร่งรัดผู้ที่ศึกษาแนวทางนี้ และเป็นการอะลุ่มอล่วยให้ระหว่างฝ่ายที่เห็นด้วยที่ให้จัดตั้งทันที กับฝ่ายที่ยังไม่อยากให้จัดตั้ง
นพ.กล่าวว่า จะมีการอภิปรายในที่ประชุมสนช. วันที่ 30 มี.ค.นี้ โดยจะไม่มีการตัดมาตราที่เกี่ยวข้องกับการตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ เพราะจะเป็นการขัดมติคณะรัฐมนตรี