นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสมอบนโยบาย"การปฏิรูปภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Doing Business)"ว่า อีกไม่กี่วันหลังจากนี้ ทางธนาคารโลกจะมีการประเมินความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของไทย ซึ่งถือว่าเป็นตัวประเมินชี้วัดที่มีควาสำคัญมากเนื่องจากมีนัยทางการเมืองน้อยที่สุด และผลจากการประเมินจะมีส่วนช่วยต่อการตัดสินการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ หากผลประเมินออกมาดี การตัดสินใจก็จะง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในการตัดสินใจเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนและรองรับความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับที่ดีขึ้นของประเทศไทยในการประเมินของธนาคารโลกครั้งต่อไป ตลอดจนเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและเพิ่มโอกาสในการเป็นแหล่งลงทุนที่มีประสิทธิภาพอันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปการบริหาราชการแผ่นดินและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
"ที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามปรับปรุงกฏหมายตามคำแนะนำของธนาคารโลก โดยมีหนึ่งเรื่องสำคัญที่ดำเนินการอยู่ คือ การแก้ไขกฏหมายการล้มละลาย ซึ่งที่ผ่านมากฏหมายไม่สามารถเอาผิดและยึดทรัพย์ที่อยู่ในต่างประเทศได้ จึงได้ปรับปรุงให้มีมาตรการที่สามารถยึดทรัพย์ในต่างประเทศได้ โดยกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรมดำเนินการในเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่า กฏหมายฉบับนี้อาจไม่แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ได้ทันในปีนี้"
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอยู่ระหว่างดำเนินการเกี่ยวกับกฏหมาย 4 เรื่อง คือ 1.พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตทางราชการ พ.ศ.2558 ที่เป็นคู่มือให้คำแนะนำประชาชนในการติดต่อหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต รวมถึงเอกสารและหลักฐานที่จำเป็นในการติดต่อหน่วยงานภาครัฐด้วย
2.ร่าง พ.ร.ฎ.การกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่อใบอนุญาต ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตทางราชการ พ.ศ.2558 ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้รับอนุญาต สามารถชำระค่าธรรมเนียมในการต่อใบอนุญาตผ่านทางเคาเตอร์เซอร์วิส ธนาคารระบบอีเพย์เม้นท์ ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุ และเมื่อมีการชำระค่าธรรมเนียมแล้วให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตได้รับการต่ออายุใบอนุญาตตามกฏหมายแล้ว ซึ่งร่าง พ.ร.ฎ.ฉบับนี้จะช่วยป้องกันการรีดไถจากเจ้าหน้าที่รัฐ และอยู่ระหว่างนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.พิจารณา
3.การพัฒนาและเชื่อมโยงข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ โดยจัดทำเป็น Doing Business Portal หรือ Biz Portal เชื่อมโยงระบบบริการแบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น การจดทะเบียนนิติบุคคล การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การขอใช้ประปา ไฟฟ้า และโทรศัพท์ เป็นต้น ซึ่งวันนี้มีหน่วยงานเชื่อมโยงระบบดิจิตัลเพิ่มเติม คือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในเรื่องการจดทะเบียนนิติบุคคล และเชื่อมโยงไปยังกรมที่ดินเพื่อเพิ่มช่องทางในการดำเนินการเกี่ยวกับการจดทะเบียนทรัพย์สินด้วย
4.เป็นความหวังสูงสุดที่มีกฏหมายที่เกี่ยวกับคำขออนุญาตค้างเก่าอยู่ 5 แสนเรื่อง ซึ่งมีการดำเนินการในการลดคำขอ การขออนุญาตเท่าที่จำเป็น รวมถึงการปรับปรุงการกำหนดประเภทของการรับโทษที่อาจมีการเพิ่มการรับโทษทางปกครองแทนการรับโทษจำคุกและปรับ
ทั้งนี้ จากรายงานผลการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก ในปี 59 ไทยอยู่อันดับที่ 46 จาก 190 ประเทศ ดีขึ้นจากปี 58 ซึ่งไทยอยู่ในอันดับ 49 และในระดับอาเซียน ไทยอยู่อันดับที่ 3 รองจากประเทศสิงค์โปร์และมาเลเซีย โดยตั้งเป้าว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้าไทยจะก้าวขึ้นสู่อันดับ 2 ของอาเซียนให้ได้