นายกฯ หวังสถาบันการศึกษาช่วยพัฒนาคน รองรับการเปลี่ยนแปลงพร้อมก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0

ข่าวการเมือง Friday May 5, 2017 14:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาเรื่อง "บทบาทของมหาวิทยาลัยไทยต่อไทยแลนด์ 4.0"ว่า สถาบันอุดมศึกษาต้องมีส่วนร่วมในพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และช่วยกันสร้างหลักคิดที่ถูกต้อง เพื่อผลิตบุคคลากรที่มีคุณภาพ เนื่องจากในการพัฒนาประเทศภายใต้ประเทศไทย 4.0 เป็นการเดินหน้าจากศตวรรษ 20 สู่ศตวรรษ 21 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโลกทั้งด้านโครงสร้าง มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น เป็นโลกที่มีความสุดโต่ง ทั้งซ้ายจัด ขวาจัด แต่ไทยต้องเดินภายใต้เส้นทางสายกลางทำให้ประเทศมีความสุข

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ขอให้มหาวิทยาลัยมีความสามัคคีกัน ร่วมกันคิดค้นสิ่งที่ใหม่ เป็นมหาวิทยาลัยของชุมชน ยกปัญหาความขัดแย้งไว้ก่อน ที่สำคัญ ครู อาจารย์ ต้องถ่ายทอดสิ่งที่หลากหลายให้กับนักศึกษา เช่นเดียวกับนักศึกษาที่จะต้องมีความขยัน และอดทน ศึกษาเล่าเรียนอย่างมีคุณภาพ

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต้องมีจุดมุ่งหมาย มีความคิดที่สร้างสรรค์ มีจิตสาธารณะ ช่วยเหลือคนในสังคม พร้อมกันนี้ ขอให้คนที่แสดงความคิดเห็น อย่าติโดยใช้ความรู้สึกอย่างเดียว ต้องให้ความสำคัญกับคนที่คิดและทำแล้วบ้าง นอกจากนี้ ยังขอให้คนไทยลดความเป็นศิลปิน การใช้อารมณ์ ไม่เช่นนั้นจะเป็นทุกข์มาก

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้เกิดทั้งโอกาสและวิกฤต เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การก่อการร้าย ดังนั้น เมื่อโลกเปลี่ยนไทยจะต้องปรับเปลี่ยนและพัฒนาทุกด้านไปข้างหน้า และยังต้องดูแลผู้มีรายได้น้อยให้เท่าเทียม โดยไม่ทิ้งกลุ่มคนในยุค 1.0-3.0 แต่ต้องมีการปรับและพัฒนาไปสู่ไทยแลนด์ 4.0

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง กระจายรายได้ไม่ทั่วถึง และมีความความเหลื่อมล้ำ ซึ่งการขับเคลื่อนงานรัฐบาลจำเป็นต้องอาศัยความมือจากทั้งภาคเอกชนและภาคประชาชนในรูปแบบประชารัฐ โดยจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเดินหน้าไปพร้อมกันใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในการขับเคลื่อนประเทศ

ขณะที่การเดินทางไปเจรจาต่างประเทศยึดหลัก 3 อย่าง คือ ลดความหวาดระแวง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และผลประโยชน์ที่เท่าเทียม ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีนโยบายไทยแลนด์บวกหนึ่ง คือลงทุนประเทศไทย และเพิ่มการลงทุนในอาเซียนด้วย จึงจะเกิดความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การท่องเที่ยวที่ต้องทำให้เกิดเที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะในฤดูฝน ที่สามารถเชิญชวนมาดูฝน และฟ้าร้องได้ เพราะบางประเทศไม่มีฝนตก แนวคิดนี้จึงถือเป็นแนวคิดใหม่ ทำใหม่

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาไทยยังติดกับดักประชาธิปไตย ซึ่งอยากให้กลับมาดูเรื่องของสิทธิหน้าที่ทั้งของตนเองที่ควรมีต่อสังคม และต่อประเทศชาติ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่เคยคิดบังคับใครและพร้อมรับฟังทุกคน ซึ่งโลกยุคใหม่หลายประเทศมีนโยบายชาตินิยม แต่ประเทศไทยจะไปอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องอยู่ในจุดที่เหมาะสม

นายกรัฐมนตรี ขอให้มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ เพราะตนเองทำงานให้กับทั้ง 70 ล้านคนไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง รวมทั้งยังขอให้ตระหนักเรื่องสังคมผู้สูงวัยในอนาคตที่จะมีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่วัยแรงงาน มีสัดส่วนน้อยลง ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงาน เพราะแรงงานต่างด้าวต้องเดินทางกลับต่างประเทศ ขณะที่อัตราการเกิดก็ลดลงเพราะสังคมเปลี่ยนไป และขออย่าคิดไว้ก่อนว่า การลงทุนหรือโครงการต่างๆของรัฐบาลต้องมีการทุจริต เพราะไม่อย่างนั้นงานจะเดินหน้าไม่ได้

พร้อมกันนี้ได้ใช้โอกาสชี้แจงเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า กองทัพมีความจำเป็นในการพัฒนาศักยภาพ เพื่อปกป้องดูแลประเทศ ซึ่งงบประมาณที่นำมาใช้ก็เป็นในส่วนของกองทัพไม่ใช่เป็นงบที่ช่วยเหลือประชาชนมาจัดซื้อ หากจะโจมตี หรือคัดค้าน ก็ไม่สามารถทำเรื่องใดได้

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะเดินหน้าการเลือกตั้งตามโรดแมพที่วางไว้ แต่ขอให้เลือกคนดี อย่าเลือกคนที่ทำให้ประเทศมีปัญหา แม้จะเกลียดตนเอง แต่ขออย่าเกลียดประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ