นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่า จะมีร่างกฎหมายหลายฉบับเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม สนช.ในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค.นี้ โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาช่วงต้นเดือน มิ.ย.และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ ที่เข้าสู่การพิจารณาของ สนช.อีกเดือนละ 1 ฉบับ ดังนั้นจะพยายามจัดสรรเวลาประชุมให้เหมาะสม และอาจกำหนดวันประชุมเพิ่มหรือขยายเวลาการประชุมเพิ่ม
พร้อมระบุว่า ในส่วนของร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากฉบับใดเสร็จก่อน สนช.จะพิจารณาวาระ 2 – 3 ในวันที่ 9 มิ.ย. และอีกฉบับจะพิจารณาในวันที่ 15 มิ.ย. ส่วนร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ และร่าง พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ก็เป็นไปตามเวลาที่ต้องทำให้แล้วเสร็จ มิเช่นนั้นแล้วอาจต้องทำงานในวันเสาร์และอาทิตย์ด้วย
ส่วนกรณีที่ ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ใช้มาตรา 44 ออกกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูป 36 ฉบับนั้น ประธาน สนช. กล่าวว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวแล้วว่าต้องดูว่าเรื่องอะไร จะใช้มาตรา 44 ออกกฎหมายทั้งหมดคงไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยกับนายวิษณุ เพราะอาจมีกฎหมายบางฉบับที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว รวมถึงกฎหมายบางฉบับที่ไม่ยุ่งยาก ก็คงเร่งส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา จากนั้นจึงส่งมายังสนช.ได้ ขณะที่บางฉบับที่มีการต่อต้านก็คงต้องชะลอไว้ก่อน
"สนช.เหลือเวลาทำงานประมาณ 1 ปี คงช่วยสปท.ได้ โดยที่ไม่ต้องใช้มาตรา 44 โดยช่วง 1 ปีนี้ ถ้าสปท.ทำตามขั้นตอนแล้วส่งมา สนช.ก็ต้องพิจารณาและดำเนินการ" นายพรเพชร กล่าว