@ กระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดอง คลอดเอกสารความเห็นร่วมของประชาชนฉบับสมบูรณ์ เดินหน้าจัดทำร่างสัญญาประชาคม
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองในชุดคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง เปิดเผยถึง กระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดองและผลการดำเนินงานกว่า 3 เดือน ตั้งแต่ 14 ก.พ.60 ที่ผ่านมาว่า ในภาพรวมมีความคืบหน้าไปมาก ประชาชนมีความตื่นตัวและให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง โดยหลังจากผู้แทน พรรคและกลุ่มการเมือง องค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชนและภาคประชาชนจากทั่วประเทศ ได้ร่วมกันสะท้อนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ รวมทั้งร่วมตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างครบถ้วนแล้ว ผ่านกระบวนการรับฟัง โดยมีอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งมีปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน
ข้อมูลจากการรับฟังดังกล่าว ได้ถูกส่งต่อให้อนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน ไปดำเนินการวิเคราะห์และสังเคราะห์ ร่วมกับ ผลศึกษาแนวทางสร้างความสามัคคีปรองดองที่มีมา ด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆตามหลักวิชาการ จนได้ "เอกสารความเห็นร่วม" ที่สมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดส่งเอกสารความเห็นร่วมดังกล่าวให้ คณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการ ซึ่งมีผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธาน เพื่อจัดทำเป็น "ร่างสัญญาประชาคม" หรือ กรอบความต้องการของประชาชนในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติสุขในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำเป็นนโยบายถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการสร้างความสามัคคีปรองดองของสังคม โดยให้เปิดกว้างรับฟังประชาชนอย่างทั่วถึงในทุกภาคส่วน ดำเนินงานในทุกขั้นตอนด้วยความเป็นกลาง ตามหลักวิชาการอย่างรอบคอบ ครบถ้วนในทุกประเด็น เพื่อให้ข้อมูลที่ได้เป็นประโยชน์ในการจัดทำร่างสัญญาประชาคม และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถพิจารณาใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว กำหนดเป็นแผนงานในระดับปฏิบัติการ ระดับนโยบายและระดับยุทธศาสตร์ ในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาแต่ละพื้นที่และเร่งคลี่คลายปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคม ซึ่งมุ่งเน้นสนับสนุนสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของรัฐบาลในภาพรวม โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นวาระเร่งด่วนและสามารถทำได้ทันทีในปี 60 ซึ่งเป็น "ปีแห่งการปฏิรูปประเทศ"
พล.ต.คงชีพ กล่าวย้ำว่า กระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดองมิใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่ทุกรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาความขัดแย้งที่มีมาอย่างต่อเนื่อง กว่า 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลปัจจุบัน เพียงเข้ามาสานต่อโดยมุ่งเน้นความเป็นรูปธรรม ด้วยการหยุดสถานการณ์ความขัดแย้งที่ใช้ความรุนแรงทันทีและนำสังคมเข้าสู่ความเป็นปกติด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ควบคู่กับการเปิดกว้างรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อเข้าใจมูลเหตุหรือปัญหาพื้นฐานและกำลังใช้ความพยายามคลี่คลายปัญหาและทำความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ให้บรรลุผลเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ เราตระหนักดีว่า ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกภาคส่วน เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ขอเพียงเชื่อมั่นและมั่นใจกัน คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองทุกคนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อส่งเสริมการสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ร่วมกันกำหนด