นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ กับพวก กรณีทำสัญญาจ้างเก็บขยะมูลฝอยและกวาดถนนในเขตพื้นที่เทศบาลนครสมุทรปราการ โดยกำหนดระยะเวลาตามสัญญาจ้าง 5 ปีติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณเกินกว่าหนึ่งปีงบประมาณ โดยมิชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
ทั้งนี้ จากการไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท ร่วมค้าแอดวานซ์เทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท เมืองสะอาด จำกัด ในนามของ “กิจการร่วมค้าปากน้ำเมืองสะอาด" เพื่อทำการเก็บขนขยะมูลฝอยและกวาดถนนในเขตพื้นที่เทศบาลนครสมุทรปราการ โดยข้อสัญญากำหนดให้ผู้รับจ้างต้องเข้าดำเนินการตามสัญญาจ้างเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2546 รวมเป็นระยะเวลา 5 ปีติดต่อกัน กำหนดวิธีการจ่ายเงินค่าจ้างเป็นรายเดือน เดือนละ 2,145,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 128,700,000 บาท โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีหนังสือทักท้วงการทำสัญญาดังกล่าวว่าเป็นการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่าหนึ่งปีงบประมาณโดยมิชอบ เนื่องจากมิใช่เป็นโครงการประเภทที่ดินและสิ่งก่อสร้าง และมิได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 ข้อ 38 ซึ่งจังหวัดสมุทรปราการได้มีหนังสือแจ้งให้เทศบาลนครสมุทรปราการทราบแล้ว แต่นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และนางบารนี เลิศไพศาล ปลัดเทศบาลนครสมุทรปราการ กลับได้ร่วมกันจัดทำหนังสือชี้แจงว่าเทศบาลนครสมุทรปราการสามารถก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหนึ่งปีงบประมาณได้ในทุกหมวดรายจ่ายและทุกโครงการ ตามนัยข้อ 38 วรรคแรก แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2541 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2543 และเทศบาลนครสมุทรปราการได้ดำเนินการเป็นไปตามระเบียบกฎหมายครบถ้วนทุกประการแล้ว
ต่อมาจังหวัดสมุทรปราการได้มีหนังสือแจ้งขอให้เทศบาลนครสมุทรปราการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นโดยเคร่งครัด โดยไม่อาจอ้างได้ว่าเทศบาลสามารถก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหนึ่งปีงบประมาณได้ตามเหตุผลดังกล่าว และให้รายงานจังหวัดทราบต่อไป แต่นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และนางบารนี เลิศไพศาล กลับมิได้ดำเนินการใด ๆ เพื่อให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแต่อย่างใด รวมทั้งมิได้ชะลอหรือยกเลิกสัญญาเพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามที่ระเบียบกฎหมายของทางราชการกำหนด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว จึงมีมติว่า นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157, นางบารนี เลิศไพศาล มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ให้ส่งรายงานการไต่สวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัย และอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญา แล้วแต่กรณีต่อไป
ส่วนนางดวงเดือน แย้มละออ ผู้อำนวยการกองคลัง เทศบาลนครสมุทรปราการ จากการไต่สวนยังไม่ปรากฏพฤติการณ์และพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอว่าได้ร่วมกระทำความผิดแต่อย่างใด ข้อกล่าวหาจึงไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป