พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้แนวทางการปฏิรูปตำรวจกับคณะกรรมการฯ ทั้งในส่วนของรัฐบาล ที่เตรียมตั้งขึ้นมาและในส่วนคณะกรรมการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกัน 3 ประการ คือ 1.ให้พิจารณาเรื่ององค์กรว่า โครงสร้าง ระบบ ภารกิจ บทบาท และหน้าที่จะเป็นอย่างไร 2.กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จะมีกฎระเบียบกติกาอย่างไร แนวทางป้องกันการทุจริต ระบบการสอบสวนจะเป็นอย่างไร และ 3.บุคลากร การเลื่อน ลด ปลด ย้าย ตลอดจนสวัสดิการที่ควรจะได้รับ
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ทั้ง 2 ชุด จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาในการทำงานอีก 9 เดือน ดังนั้นในช่วง 2 เดือนแรกให้ดำเนินการรวบรวมปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้น จากนั้น 4 เดือนต่อไปจะเป็นการกำหนดวิธีการปฏิบัติหลังจากศึกษาปัญหาแล้ว และอีก 3 เดือนสุดท้าย เป็นการสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนให้เข้าใจถึงผลดีของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ที่จะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องในอดีตอย่างไร เพื่อให้สังคมเกิดการยอมรับ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะทำให้การขับเคลื่อน สตช.ได้รับความเชื่อถือและศรัทธาจากประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปว่า ขณะนี้มีรายชื่อคณะกรรมการแล้ว โดยรวบรวมไว้ที่ฝ่ายกฎหมาย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดตัวบุคคลได้
พร้อมทั้งแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่เสนอให้ใช้มาตรา 44 ระงับการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจทั้งหมดจนกว่าการปฏิรูปจะแล้วเสร็จ เพราะเห็นว่าจะกระทบในวงกว้าง โดยรัฐบาลจะต้องคุ้มครองสิทธิให้กับนายตำรวจที่มีการโยกย้ายอย่างถูกต้อง และควรพิจารณาเป็นรายกรณีๆ ไป