พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการออกคำสั่งตามมาตรา 44 เพื่อชะลอการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ใน 4 มาตรา ออกไปอีก 6 เดือน ว่า เพื่อต้องการให้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผู้ประกอบการเองก็ต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการจัดระเบียบแรงงานของตนเอง หากยังดำเนินการแบบเดิมก็จะส่งผลตามมาได้ ดังนั้นทุกคนจะต้องปรับตัวและปฎิบัติตามกฎหมาย
สำหรับข้อกังวลของผู้ประกอบการที่เกรงว่าจะขาดแคลนแรงงานนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังมีแรงงานใหม่ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้รอการจ้างงานอยู่ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการจะพิจารณาว่าจะรอแรงงานเดิมหรือจะจ้างใหม่ แต่หากจะยังให้แรงงานเดิมก็ต้องไปขึ้นทะเบียนให้ถูกกฎหมาย เรื่องนี้รัฐบาลมีความจำที่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ และต้องแก้ปัญหา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากไม่ทำในรัฐบาลนี้ก็ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลต่อไปจะทำหรือไม่ และจะไม่มีการทบทวนหรือยกเลิกกฎหมาย เพราะได้ให้เวลาในการไปดำเนินการนานถึง 6 เดือน เรื่องนี้รัฐบาลใช้เวลาแก้ปัญหามานานถึง 3 ปี ปัญหาก็ยังไม่หมด แต่ผู้ประกอบการมีความพยายามที่จะอาศัยช่องว่างของกฎหมายหลบเลี่ยง ซึ่งหากยอมรับแก้ไขกระทรวงแรงงานก็พร้อมให้ความช่วยเหลือ ส่วนบทลงโทษปรับที่สูงมากนั้นได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานไปพิจารณาความเหมาะสม โดยมอบแนวทางไปแล้ว
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการ IUU จะเดินทางมาประเมินผลการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายของไทยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ส่วนตัวไม่สามารถทราบผลการประเมินได้ แต่รัฐบาลพยายามนำข้อสังเกตของ IUU มาแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ส่วนจะได้ผลเต็มร้อยหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่จะประเมิน พร้อมย้ำว่า ที่ผ่านมาไม่มีการแก้ปัญหาที่สะสมมานาน และยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ต้องการไล่ล่าหรือทำเพื่อส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจให้เดือดร้อน