นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า หากมีการยื่นเรื่องก็ต้องชะลอขั้นตอนของการนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ ไปก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ส่งร่างกฎหมายมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ ซึ่งหากส่งมาแล้วก็จะต้องเก็บไว้เป็นเวลา 5 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพราะต้องรอว่าจะมีใครนำเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
สำหรับกรณีนี้แม้กฎหมายจะยังไม่บังคับใช้ก็สามารถยื่นเรื่องได้ เนื่องจากไม่ใช่การยื่นให้ศาลตีความว่าขัดหรือไม่ แต่เป็นการยื่นเนื่องจาก กกต.เห็นว่าร่างกฎหมายขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้ดำเนินการได้ หากเห็นว่าร่างกฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหรือกระบวนการของร่างกฎหมายนั้น และในส่วนของเนื้อหาของร่างกฎหมาย แม้จะบังคับใช้ไปแล้ว ก็สามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายหลังได้ แต่หากขัดในกระบวนการร่างกฎหมายก็ไม่สามารถยื่นต่อศาลได้
นายวิษณุ ยืนยันว่า การยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญของ กกต. จะไม่กระทบกับโรดแมพการเลือกตั้ง เพราะ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ มี 10 ฉบับ ซึ่งอาจจะเกิดกรณีเดียวกันนี้ได้ จึงมีการเผื่อเวลาให้กับกรณีดังกล่าวไว้แล้ว
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงความชัดเจนของ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่หากมีผลบังคับใช้แล้วจะสามารถเดินหน้าต่อในคดีที่ถูกจำหน่ายไว้ชั่วคราวเนื่องจากจำเลยหลบหนีได้หรือไม่ว่า สิ่งใดที่ดำเนินการไปก่อนแล้วเป็นอันว่ามีความถูกต้องสมบูรณ์ ส่วนใดที่ยังค้างอยู่ ยังไม่ได้ดำเนินการก็ต้องปรับให้เข้ากับกฎหมายใหม่ ซึ่งกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการพักการพิจารณาหรือจำหน่ายคดีออกเป็นการชั่วคราว เมื่อกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ก็สามารถเดินหน้าพิจารณาต่อได้ทันที