พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีข้อเรียกร้องจากนักการเมืองและเจ้าของโรงสีข้าวบางแห่งให้รัฐบาลตรวจสอบคุณภาพข้าวในโครงการรับจำนำข้าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงใกล้วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคพวก ซึ่งอาจตีความได้ว่า หวังให้เกิดผลทางคดีหรือเรียกร้องความเห็นใจจากสังคม แต่ปรากฏว่ามีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้าน
“ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวและกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงหลักการระบายข้าวแล้วหลายครั้ง แต่มีความพยายามของคนบางกลุ่มอ้างว่า มีการระบายข้าวดีปะปนไปด้วย ทำให้ราคาข้าวตก โดยกลุ่มคนที่กล่าวอ้างเหล่านี้ล้วนมีส่วนต้องรับผิดชอบต่อการชดใช้ค่าเสียหายของข้าวในโกดังด้วยแทบทั้งสิ้น"
พล.ท. สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีการอายัดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีการบิดเบือนให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนั้น อยากให้สังคมตรึกตรองข้อมูลให้ถ้วนถี่ โดยขอตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันว่า หากไม่มีมาตรการทางกฎหมายให้ชดใช้ความเสียหายแก่รัฐอันเนื่องมาจากโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ทรัพย์สินในบัญชีธนาคารของอดีตนายกรัฐมนตรีจะมีจำนวนเท่าใด เพราะจากข้อมูลที่ได้จากการสืบทรัพย์พบว่า จำนวนทรัพย์สินในบัญชีธนาคาร 16 บัญชี มีน้อยกว่าทรัพย์สินเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปีที่รายงานต่อ ป.ป.ช. ที่มีถึง 612 ล้านบาท