นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการสามฝ่ายว่าด้วยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมือง เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบและปรับแก้ตามคำร้องของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ใน 2 จาก 4 ประเด็น คือ การกำหนดโทษกรณีการทุจริตไพรมารี่โหวต และไม่บังคับให้หัวหน้าพรรคการเมืองจะต้องลงสมัครระบบบัญชีรายชื่อหมายเลข 1
สำหรับความผิดเกี่ยวกับไพรมารี่โหวตนั้น ทาง กมธ.สามฝ่ายได้ปรับแก้ให้เกิดความชัดเจนขึ้นว่าเป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคในการดำเนินการสรรหาผู้สมัครของพรรค ดังนี้ 1.ไม่ให้มีการกระทำการจูงใจให้ได้รับเลือกในขั้นตอนไพรมารี่โหวด ด้วยการเสนอสัญญา หรือจัดเตรียมให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ที่คำนวณเป็นเงินได้ 2.หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายสร้างความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ก่อนการลงคะแนนไพรมารี่โหวต 3.เรียกรับ หรือยอมรับ หรือสัญญาว่าจะรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ เพื่อให้สมาชิกลงหรือไม่ลงคะแนนในขั้นตอนไพรมารี่โหวต และ 4.ห้ามผู้ใดยินยอมให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้าแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมออกเสียงไพรมารี่โหวต
ทั้งนี้ กมธ.สามฝ่าย กำหนดโทษสำหรับผู้ทำความผิดที่เกี่ยวข้อง สำหรับหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคที่ละเลยไม่ดำเนินการจัดทำไพรมารี่โหวต ให้มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี โดยกำหนดให้สมาชิกพรรคเป็นผู้เสียหายในกรณีนี้ ส่วนกรณีผู้ใดก็ตามที่มีส่วนทุจริตการจัดทำไพรมารี่โหวตมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคที่ปล่อยให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคไปออกความเห็นในที่ประชุมไพรมารี่โหวตมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ส่วนบุคคลอื่นที่ร่วมกระทำการมีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เพิกถอนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย