พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า การจัดซื้อขีปนาวุธ พื้น-สู่-พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ แบบ RGM-84L ฮาร์พูน บล็อค ทู จำนวน 5 ลูก และขีปนาวุธซ้อมยิง ฮาร์พูน บล็อค ทูว์ 1 ลูก เป็นไปตามความจำเป็นของกองทัพเรือ โดยใช้งบประมาณประจำปีของทางกองทัพ โดยไม่ได้ใช้งบกลาง และนำมาต่อบนเรือฟริเกตเพื่อใช้ปกป้องอธิปไตย
"งบประมาณต่อเรือฟริเกตมันรวมถึงอาวุธด้วย ที่ผมบอกว่าไม่รู้ว่ามีการซื้อ เพราะมันอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว ผมจำไม่ได้หรอก มันเป็นการซื้อตามระบบของเขาอยู่แล้ว ถ้ามีเรือแล้วไม่มีอาวุธ จะต่อไปทำไม ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า งบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่เพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มตามลำดับของแต่ละปี ซึ่งทุกกระทรวงก็เพิ่มขึ้น โดยไม่เกินสัดส่วนงบประมาณทั้งหมดของประเทศ ซึ่งเป็นการจัดสรรน้อยกว่าสัดส่วนที่สมควรได้รับ เพราะคำนึงถึงเรื่องอื่น ไม่ว่าจะเป็น เกษตร สาธารณสุข การศึกษา การดูแลผู้สูงวัย แต่ไม่สามารถทิ้งเรื่องการดูแลความมั่นคงได้ เพราะเกี่ยวกับความมีเสถียรภาพของประเทศ และไม่ได้มุ่งหวังจะซื้ออาวุธไปทำการรบ แต่ซื้อไว้เพื่อคุ้มครองทรัพยากรทางบก ทางทะเล ซึ่งมีความจำเป็น เพราะรอบบ้านก็ยังมีปัญหาอยู่
สำหรับงบประมาณที่สูงขึ้น เพราะที่ผ่านมาทุกรัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจในการบำรุงรักษา จึงจำเป็นต้องมีการจัดหาเท่าที่จำเป็น และในช่วงปกติยุทโธปกรณ์ของกองทัพสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการบรรเทาภัยพิบัติและดูแลประชาชนได้ พร้อมทั้งต้องมีการเตรียมความพร้อมของอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อใช้ในการร่วมฝึกรบกับนานาชาติด้วย
"ส่วนหนึ่งเอาไว้ป้องกันตัวเอง และฝึกร่วม รบร่วมกับเขา ถ้าเรามียุทโธปกรณ์สัปปะรังเคไปฝึกร่วมกับเขา ไปวิ่งตามเขาทันหรือไม่ คิดอย่างนี้บ้าง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว