พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่า มีการรายงานความคืบหน้าการระบายข้าวที่เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการฯ ได้กำหนดไว้ ซึ่งเชื่อว่าภาระในการเก็บรักษาข้าวในสต็อกจะลดลงมาก เพราะมีข้าวคงเหลือในปริมาณไม่มาก และทุกอย่างก็ดำเนินการไปตามหลักเกณฑ์ทั้งหมด แต่ในเรื่องของการตรวจสอบที่มีการตั้งข้อสังเกตต่างๆ ตนเองได้สั่งการให้มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพิ่มเติมอีก 1 คณะ เพื่อลงไปตรวจสอบตามข้อสังเกตต่างๆ ภายใน 10 วัน เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนในกรณีข้อร้องเรียนต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ปล่อยปละเลยในทุกเรื่อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีปริมาณข้าวอยู่ในสต็อกรัฐบาลไม่ถึง 50% ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดมีข้าวเปลือกกว่า 2 แสนตัน ซึ่งไม่รวมข้าวนอกคลังที่มีจำนวนไม่มาก พร้อมย้ำว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานเพื่อระบายข้าวตามกรอบอย่างเต็มที่
ด้านนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ที่ประชุมนบข. ได้มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 60/61 โดยกำหนดราคารับจำนำร้อยละ 90 ของราคาเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ อัตราสินเชื่อตันละ 10,800 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 10,800 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 7,200 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 8,500 บาท โดยมีวงเงินสินเชื่อรวม 21,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.60 ถึง 28 ก.พ.61 โดยคาดว่าจะสามารถชะลอการขายข้าวในตลาดได้ตามเป้าที่ 2 ล้านตัน
นอกจากนี้ที่ประชุมฯ ยังช่วยเหลือค่าขึ้นยุ้งหรือค่าฝากเก็บข้าวอีกตันละ 1,500 บาท โดยใช้งบประมาณรวม 4,038 ล้านบาท
ที่ประชุมฯ ยังอนุมัติโครงการช่วยเหลือเกษตรกรทุกราย โดยเป็นเงินจ่ายขาดให้กับชาวนา เพื่อช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวอีกไร่ละ 1,200 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 12,000 บาท โดยจะใช้งบประมาณ 48,321 ล้านบาท ซึ่งโครงการทั้งหมดจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ที่ประชุมฯ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ร่วมกันจัดทำแอปพลิเคชันเรียกรถเกี่ยวข้าว หลังจากปีที่ผ่านมาในหลายพื้นที่มีข้าวออกรวงมาพร้อมกันทำให้รถเกี่ยวข้าวไม่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้ดำเนินการในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งทันต่อการเก็บเกี่ยวในฤดูกาลผลิตนี้