นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยคำร้องของ 36 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ร่าง พ.ร.บ.บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ในประเด็นสถานะผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่จนครบวาระไม่ขัดรัฐธรรมนูญปี 2560 กรธ.ขอยืนยันว่า ได้เขียนคุณสมบัติขององค์กรอิสระในกฎหมายลูกที่เหลืออยู่ตามหลักการเดิม คือ หากมีคุณสมบัติครบก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อจนครบวาระได้ แต่หาก สนช.พิจารณาเห็นควรแก้ไข ก็อยู่ที่ สนช.ซึ่ง กรธ.ไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงได้ ในส่วนของร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ทาง กรธ.ยืนยันว่ายังคงกำหนดให้กรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันต้องมีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรต้องไปถาม สนช.
ที่ผ่านมา กรธ.ได้มีการเซ็ตซีโร่องค์กรอิสระแค่องค์กรเดียวเท่านั้น คือ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เนื่องจากมีเหตุผลอันสมควรเรื่องของที่มาของกรรมการสรรหาที่ไม่หลากหลาย ไม่เป็นไปตามหลักการปารีส ทั้งนี้ในส่วนของคำวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องรอดูรายละเอียดเต็มก่อนว่ามีเหตุผลอย่างไร
ส่วนจะส่งผลให้สังคมเกิดความสับสนหรือไม่ว่าการดำรงอยู่ขององค์กรอิสระต่างๆ ทำไมไม่เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันนั้น นายมีชัย กล่าวว่า ต้องไปถาม สนช.เพราะ กรธ.ยกร่างกฎหมายลูกตามเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่ามีความพร้อมจัดเลือกตั้งในเดือน ส.ค.61 นายมีชัย กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบ เพราะกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งยังไม่ออกมา ต้องรอให้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับออกมาก่อน ถึงจะบอกได้ว่าพร้อมหรือไม่พร้อม แต่ยืนยันว่าในส่วนของกรธ.มีภาระต้องทำกฎหมายลูกให้เสร็จภายใน 240 วัน และยืนยันว่าทำเสร็จตามกำหนดแน่นอน นอกเหนือจากนั้นไม่ใช่หน้าที่ของกรธ. และไม่สามารถตอบแทนองค์กรอื่นๆ และถึงตอนนั้น กรธ.อาจไม่อยู่ทำหน้าที่แล้วก็ได้