พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจากสถาบันพระปกเกล้า เรื่องความนิยมในตัวอดีตนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2545-2560 ซึ่งพบว่านายทักษิณ ชินวัตร ได้รับความนิยมจากประชาชนสูงสุดเมื่อปี 2546 ถึง 92.9% ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดในลำดับถัดมาที่ 87.5% ในปี 2558 ว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของคนที่ยังไม่ก้าวข้ามทักษิณ รวมถึงสื่อมวลชนที่ยังไม่ก้าวข้ามด้วยเพราะยังมีการนำเสนอข่าวอยู่ทุกวัน ในขณะที่ตนได้ก้าวข้ามไปแล้ว และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายที่จะดำเนินการต่อไป พร้อมระบุว่า เหตุที่หลายคนยังก้าวไม่พ้น เพราะการสร้างความเข้าใจที่ยังติดกับเรื่องเดิม
"ก็เรื่องของคุณ คุณไปถามใคร ผมพ้นไปนานแล้ว พวกคุณหลายคน สื่อก็ไม่พ้น เสนอข่าวอยู่ทุกวัน เสนอไปซิ ก็ไม่พ้นสักที ผมลืมไปแล้ว เป็นเรื่องของกฏหมายไปว่ากันมา การก้าวไม่พ้นคือการสร้างการรับรู้ ทำให้ไม่พ้น เพราะฉะนั้นวิธีการคือลืมๆไป ให้กฏมายดำเนินการตามกระบวนการ คุณเข้าใจหรือไม่ ความผิดยังมีอยู่ ผมก็อธิบายต่างประเทศความผิดมีอยู่อย่างไร แต่จะผิดจะถูก ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ถ้าหนีไปก่อนก็พิจารณาไม่ได้ คดีก็ติดค้างอยู่แบบนั้น ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้ต้องการไปไล่ล่าใครทั้งสิ้น มันมีความผิดเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนผมเข้ามาทุกเรื่อง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมระบุด้วยว่า เช่นเดียวกับกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะไม่ให้ความสำคัญเช่นกัน และขอสื่ออย่านำความขัดแย้งกลับมา ด้วยการนำเสนอความขัดแย้งของฝ่ายต่างๆ แล้วมากล่าวหารัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีเพียงฝ่ายเดียว
"ผมก้าวข้ามทุกคนที่เป็นความขัดแย้ง ผมไม่ได้ก้าวข้ามหัวเขาหรือดูถูกเขา ก้าวข้ามคือผมไม่นึกถึงเขา ผมไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ เพราะผมไม่ได้ทำแบบที่เขาพูด ตั้งคำถามที่เป็นประโยชน์หน่อย คุณไม่เคยถามผมเลยประชุม BRICS เขาว่าอย่างไร เขายอมรับประเทศหรือไม่ คุณไม่เคยถามเรื่องเหล่านี้ ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลย คุณนั่นแหละที่ไม่ก้าวข้าม ไม่ใช่ผม ผมก้าวข้ามตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาแล้ว" นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด