คณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรมีมติเห็นชอบแนวทางและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคกลางตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ โดยมี 2 เรื่องเร่งด่วน คือ ด้านการค้าการลงทุน การบริหารจัดการน้ำ นอกจากนี้ยังมีแนวทางและข้อสั่งการในด้านการคมนาคมขนส่ง การเกษตร การท่องเที่ยว
รายงานข่าวจากสำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.สัญจร จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกรในภาคกลาง
ทั้งนี้ ครม.ได้มีมติเห็นชอบแนวทางและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในเรื่องเร่งด่วน คือ ด้านการค้าการลงทุน มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ร่วมกับกระทรวงการคลังรับไปเร่งรัดดำเนินการเปิดประมูลให้เอกชนเช่าที่ดินในเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรี โดยให้ความสำคัญกับการแบ่งพื้นที่ที่มีความพร้อมก่อน (Phasing) โดยเฉพาะพื้นที่ที่เอกชนมีความสนใจลงทุนประมาณ 500 ไร่ และให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ตามขั้นตอนต่อไป
ด้านการบริหารจัดการน้ำ ที่ประชุม ครม.มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งพิจารณาศึกษาวิธีการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงความจำเป็นในการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งถาวรหรือแนวทางเลือก อื่นที่เหมาะสม เพื่อบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วมที่เกิดจากน้ำที่ระบายจากเขื่อนเจ้าพระยาบริเวณชุมชน ริมคลองโผงเผง และขอรับการสนับสนุนตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับในด้านการพัฒนาคมนาคมขนส่ง ทั้งโครงการของพื้นที่ที่สอดคล้องกับโครงการที่บรรจุอยู่ในยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่ง และ โครงการที่ต้องการให้เร่งรัดดำเนินการนั้น ที่ประชุมครม. มอบหมายให้ทางกระทรวงคมนาคมรับข้อเสนอไปพิจารณาจัดลำดับความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ในด้านการท่องเที่ยว ที่ประชุมครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการเพิ่มจังหวัดชัยนาทให้อยู่ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนกลางภายใต้ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558 – 2560
นอกจากนี้ การพัฒนาการท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศจะต้องให้ความสำคัญกับศักยภาพของแต่ละจังหวัดเพื่อสร้างความเชื่อมโยงของเส้นทางและกิจกรรมภายในภาค ระหว่างภาคสู่ภาค และระหว่างภาคสู่กลุ่มประเทศ CLMV โดยมอบหมายให้สภาพัฒน์รับข้อเสนอการเพิ่มจังหวัดสระบุรีไปพิจารณาประกอบการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาภาคกลางในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12
อีกทั้ง มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษาในรายละเอียดของการวางระบบขนส่งมวลชนเชื่อมต่อจากสถานีหลักไปยังแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและความคุ้มค่า รวมทั้งความต้องการและผลกระทบที่มีต่อชุมชนในพื้นที่ด้วย
สำหรับด้านการเกษตร ได้มีการขอทบทวนมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) โดยขอเพิ่มค่าเก็บเกี่ยวให้เกษตรกรที่กำหนดให้ไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อราย เป็นไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อราย ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อเสนอไปพิจารณาโดยคำนึงถึงงบประมาณและหลักเกณฑ์อื่นๆอย่างรอบคอบ หากมีความเหมาะสมในการปรับปรุงมาตรการ จึงเสนอ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่อพิจารณาตามขั้นตอน