พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ เห็นควรใช้วิธีผสมผสานการทำหน้าที่ระหว่างตำรวจในด้านสอบสวนและสืบสวน ซึ่งต่อจากนี้จะรวมงานสืบสวนและสอบสวนเข้าไว้ด้วยกันจากเดิมที่แยกออกจากกัน เหตุผลที่ต้องนำเรื่องสืบสวนสอบสวนมารวมกัน เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีการแยกออกจากกันแต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถแยกออกจากกันได้
สำหรับสายงานบังคับบัญชานั้น งานสืบสวนสอบสวนยังคงอยู่ภายใต้กำกับดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพราะมีความจำเป็นที่สตช.ยังต้องรับผิดชอบอยู่ ประกอบกับการทำงานยังต้องใช้บุคลากรและสถานที่ทำงาน จะไม่มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาแต่อย่างใด ยังคงอยู่ในสถานีตำรวจ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯ ยังได้พิจารณาหาแนวทางทำกฎหมายเขียนคุ้มครองความเป็นอิสระของพนักงานสอบสวนเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บังคับบัญชาเข้าไปแทรกแซงการทำหน้าที่ว่า ผู้บังคับบัญชาสามารถสนับสนุนให้ความช่วยเหลือการทำงานของพนักงานสอบสวนได้ แต่ไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวกับการทำคดีได้ เพื่อให้พนักงานสอบสวนทำคดีด้วยความเป็นธรรม
"ต้องหาวิธีปฏิบัติทำอย่างไร ไม่ให้ผู้บังคับบัญชาสามารถใช้อำนาจหัวหน้าก้าวก่ายทำให้รูปคดีเสียเพื่อช่วยใคร จะต้องทำไม่ได้ ต้องสร้างตรงนี้ให้ได้ ถ้าไม่ได้การปฏิรูปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร” พล.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ยังได้มีการเสนอให้มีการปรับโครงสร้างการเติบโตในสายงานของพนักงานสอบสวนออกเป็น 2 รูปแบบ โดยตำแหน่งทั่วไปหรือการเลื่อนในสายงานหลักให้เลื่อนตำแหน่งเมื่อมีตำแหน่งว่าง ส่วนตำแหน่งในสายงานพนักงานสอบสวนโดยเฉพาะ ให้เลื่อนตำแหน่งที่ครอง โดยเป็นการเลื่อนจากการประเมิน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสามารถเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปได้ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ควบคุมงานด้านสืบสวนสอบสวน