ศาลฎีกา มีคำสั่งสั่งยกคำร้องขอขยายเวลาฎีกาของแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) 13 คน ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีที่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.ยื่นฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนกว่า 522 ล้านบาท กรณีนำกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาลที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงวันที่ 24 พ.ย.-3 ธ.ค.51 ซึ่งส่งผลให้การให้บริการต่างๆ ภายในท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งต้องหยุดชะงัก
ทั้งนี้ ศาลแพ่งมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 มี.ย.54 ให้จำเลยทั้ง 13 คน ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.51 จนกว่าจะชำระเสร็จ ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
แต่ทีมทนายความของแกนนำฯ ทั้ง 13 คนไม่ได้ยื่นฎีกาภายในกำหนดเวลา 30 วัน จึงทำเรื่องขอขยายเวลาฎีกาในภายหลัง ซึ่งศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิจารณายกคำร้องขอขยายเวลาของจำเลยนั้นชอบแล้วตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง และเมื่อศาลฎีกายกคำร้องขอขยายเวลาฎีกาของจำเลยแล้ว ผลแห่งคดีจึงถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้จำเลยทั้ง 13 คนร่วมกันชดใช้เงินจำนวนดังกล่าว
สำหรับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้ง 13 คน ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายอมร อมรรัตนานนท์, นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง, นายสำราญ รอดเพชร, นายศิริชัย ไม้งาม, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี