พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) คาดว่า ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) สถานการณ์บริเวณศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่นัดฟังพิพากษาในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย อาจจะมีประชาชนที่เป็นผู้สนับสนุนเดินทางมาศาลไม่มากเหมือนวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา และเชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น เพราะทุกคนต้องเคารพคำตัดสินของศาลยุติธรรม
ส่วนการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องขยายผลกันต่อไป
เลขาธิการ สมช.ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า สถิติการก่อเหตุเว้นระยะห่างขึ้นเรื่อยๆ และผู้ก่อความไม่สงบไม่สามารถก่อเหตุรุนแรงได้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อวานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 เพิ่มความเข้มงวดเรื่องการลาดตระเวน ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตกเป็นเป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบ ดังนั้นต้องมีความรอบคอบและควรใช้เทคโนโลยี เช่น นำโดรนมาใช้ร่วมในการลาดตระเวนให้มากขึ้น รวมทั้งการกำหนดเส้นทาง
ขณะเดียวกันการพูดคุยสันติสุขยังเป็นสิ่งที่จะแก้ปัญหาได้ ด้วยการหาจุดร่วมให้ได้ว่าความต้องการของผู้เห็นต่างคืออะไร และสามารถมาร่วมกันได้มากน้อยเพียงใด แต่จุดยืนของรัฐบาลยืนยันว่าไม่สามารถแบ่งแยกดินแดนได้ และได้ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองโดยเคร่งครัด ส่วนเรื่องเซฟตี้โซนยังอยู่ระหว่างการหารือ และขออย่าเพิ่งเร่งรัด เพราะจะต้องมั่นใจว่าสามารถปฏิบัติได้จริง
ส่วนกรณีแม่ทัพภาคที่ 4 ไม่ยอมเรียกผู้ก่อความสงบว่าเป็นผู้เห็นต่าง แต่เรียกว่าเป็นคนเลวนั้นจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายหรือไม่ พล.อ.ทวีป กล่าวว่า คนเลวคือผู้ที่มุ่งร้ายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนคนไทย แต่หากมาพูดคุยกันหาหนทางให้เกิดสันติสุขอยู่ร่วมกันได้ ประเด็นนี้คือสิ่งที่ต้องการให้ประชาชนร่วมมือกัน สำหรับการพูดคุยสันติสุขครั้งต่อไปยังอยู่ระหว่างนัดหมาย