นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการแต่งตั้งพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ มาดำรงตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตว่า ตามขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯนั้นจะดำเนินการโดยการให้คณะกรรมาธิการสามัญแต่ละคณะเสนอชื่อบุคคลมาให้วิปสนช.ก่อนส่งให้ที่ประชุมสนช.พิจารณา โดยกมธ.หนึ่งคนจะเป็นกมธ.พิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้ไม่เกินคนละ 2 คณะ และเมื่อมีการเสนอชื่อผ่านมายังที่ประชุมสนช.แล้ว ประธานสนช.ไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ เพราะทำได้แค่เพียงการพิจารณาให้ที่ประชุมไม่ได้ดำเนินการผิดข้อบังคับการประชุมสนช. แต่คิดว่าเป็นเรื่องที่คณะกมธ.วิสามัญฯต้องพิจารณาต่อไป
ส่วนการให้บุคคลที่ถูกกล่าวหาและมีคดีในป.ป.ช.มาพิจารณากฎหมายของป.ป.ช.จะมีความเหมาะสมและขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าคดีของสมาชิกสนช.ทั้ง 2 ท่านอยู่ในขั้นตอนไหนของป.ป.ช. แต่กมธ.ที่พิจารณากฎหมายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ความบริสุทธิ์หรือความถูกต้องของบุคคลใด และหลักของการประชุมกมธ. ถ้าบุคคลนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องก็ไม่มีสิทธิที่จะเข้าประชุมในเรื่องนั้น จึงต้องไปดูในประเด็นข้อกฎหมายว่าเกี่ยวข้องหรือไม่
ด้านนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า เมื่อสนช.ตั้งมาแล้วก็ต้องทำงาน กรณีของพล.ต.อ.พัชรวาท ที่วิจารณ์กัน ตนพูดอะไรมากไม่ได้ แต่ในฐานะที่ กรธ. เป็นคนนอก ทำได้เพียงติดตาม ซึ่งหากการพิจารณากฎหมาย มีสิ่งใดผิดจากหลักการก็คงต้องมีข้อโต้แย้งไป