เครือข่ายนักวิชาการภาคใต้ ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา

ข่าวการเมือง Friday November 24, 2017 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ รวบรวมรายชื่อจำนวน 97 คน ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโอกาสที่จะเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) และติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบายและการพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใต้โครงการสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย.60 ณ จังหวัดปัตตานีและสงขลา โดยเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของนักวิชาการ นักวิจัยในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของภาคใต้ ได้ติดตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และการดำเนินงานของรัฐบาลมาโดยตลอด มีความเห็นว่านโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคใต้ ได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนทางภาคอุตสาหกรรม โครงข่ายคมนาคมและพลังงาน รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และนโยบายการพัฒนาต่าง ๆ ตามแนวทางตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 และประชารัฐ อาจส่งผลกระทบกับวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของกลุ่มคนต่าง ๆ ในภาคใต้ในระยาว ขณะที่ปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตในประจำวันก็ไม่ได้การตอบสนองจากรัฐบาลแต่อย่างใด

ดังนั้นเพื่อให้การกำหนดนโยบาย ทิศทาง และยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคใต้ของรัฐบาลสอดคล้องกับกระบวนทัศน์การพัฒนาที่เป็นมาตรฐานจริยธรรมสากล ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ที่ประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติไปพร้อม ๆ กับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน การตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ด้วยกระบวนการและวิธีการทางเมืองที่เป็นประชาธิปไตย

เครือข่ายนักวิชาการฯ มีข้อเสนอแนะ ดังนี้

1.เร่งรัดการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของเกษตรกรอันเนื่องมาจากราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคายางพารา และราคาปาล์มน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในระยะสั้นและระยาว แสดงให้เห็นถึงการไม่รู้สึกใส่ใจใยดีต่อชีวิตและปากท้องของเกษตรกร ทั้งที่มีความพยายามในการแสดงความคิดเห็นหรือเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเครือข่ายเกษตรกร กลับถูกปิดกั้นจากหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด จึงขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาของเกษตรกรอย่างจริงจัง โดยตระหนักว่าการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรคือวาระสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องอาศัยพลังความร่วมมือ การระดมองค์ความรู้ และนับความรู้ของเกษตรกรเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการแก้ไขปัญหา

2.ในสถานการณ์เฉพาะหน้า ขอให้หยุดการดำเนินโยบายและโครงการในภาคใต้ที่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรม ไม่ว่าจะเป็น โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหิน ที่มีรายงานวิจัยยืนยันถึงผลกระทบและส่งผลเชื่อมโยงต่อการทำลายศักยภาพของภาคใต้อย่างชัดเจนแล้ว โครงการเวนคืนผืนป่าพร้อมทั้งกำหนดมาตรการความยั่งยืนให้เกษตรกรได้มีที่ดินเป็นปัจจัยการผลิต รวมทั้งปัญหาความรุนแรงจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเร่งด่วน

3.ขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบาย ทิศทาง และยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคใต้ทั้งระบบ โดยจัดให้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment: SEA) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบูรณาการมิติด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี การเปรียบเทียบทางเลือกที่เหมาะสม รวมถึงความเชื่อมโยงกับโครงการอื่น ไม่ว่า โครงการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 โครงการประชารัฐ และโครงการที่เกิดขึ้นจากการยกเว้นการบังคับใช้กฎหมาย และ /หรือการใช้กฎหมายพิเศษ ตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ด้วยหลักการ กระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคมโดยในชั้นต้นควรเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมดที่จะช่วยให้มองเห็นภาพรวมการพัฒนาแก่สาธารณะชนอย่างตรงไปตรงมา

4.ส่งเสริมและสนับสนุนวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อให้บรรลุภาคใต้แห่งความสุขอย่างยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงในชีวิต แหล่งผลิตอาหาร การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น การสร้างนวัตกรรมพัฒนาเศรษฐกิจและการประกอบการฐานราก อันเป็นศักยภาพ ทุน ภูมิทัศน์วัฒนธรรมและการพัฒนาของภาคใต้ที่มีมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ควรสร้าง/ เปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของประชาชน ประชาสังคมในการเข้ามากำหนดอนาคตภาคใต้อย่างทั่วถึง กว้างขวางและครอบคลุม โดยเริ่มต้นจากการวางแผนร่วมอย่างเป็นระบบ ลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในสังคม บนพื้นฐานของความหลากหลายทางคุณค่าของพื้นที่ (Area-based Value Diversity)

5.ข้อเสนอในข้างต้นสัมพันธ์และโยงใยอย่างยิ่งยวดกับระบบการเมืองแบบเปิดที่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้นรัฐบาลและคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ต้องคืนประชาธิปไตย ด้วยการเคารพอย่างมั่นคง จริงใจในโรดแมพ (Road Map) การเลือกตั้ง ไม่ริดรอน สิทธิ เสรีภาพ และการใช้อำนาจที่ทำให้ประชาชนหวาดกลัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ