พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายวีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ ว่าที่ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ ถูกมองว่าเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับพรรคการเมือง ทุกอย่างอยู่ที่การทำงาน ที่ผ่านมานายวีระศักดิ์ก็ทำงานกับรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวมาโดยตลอด จึงคิดว่าน่าจะทำงานด้านนี้ได้ดี
ทั้งนี้ การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไม่ได้มองถึงการมีรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนจากพรรคการเมืองมาเข้าร่วมรัฐบาล เพราะส่วนตัวไม่ได้มองเรื่องพรรคหรือการมีพรรคการเมืองเข้ามาทำงาน เพราะตนเองไม่มีพรรค ซึ่งไม่ว่าจะเป็นใคร หากเข้ามาทำงานแล้วไม่สามารถทำงานได้ก็ต้องกลับไปพักผ่อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของการปรับ ครม.คือต้องการให้ได้คนใหม่เข้ามาทำงาน เพื่อเกิดภาพของความเปลี่ยนแปลง แต่อีกทางหนึ่งก็อยากให้ประชาชนได้รับรู้ว่า การเปลี่ยนแปลง ครม.อาจไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่หากอยู่ที่รัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรีต้องมีความรอบรู้ มีวิสัยทัศน์ อดทนต่อคำติฉินนินทา ซึ่งตนเองก็อดทนอยู่ในทุกวันนี้
ส่วนกระแสข่าวการรวม 2 พรรคการเมืองใหญ่เพื่อต่อรองกับ คสช.นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่สนใจ ให้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง เพราะตนเองต้องทำงานให้ประชาชน
ส่วนการปรับ พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร ออกจากตำแหน่ง รมช.กลาโหม นั้น เพราะเห็นว่าทำงานมาแล้ว 3 ปี และก็ยังอยู่ในตำแหน่ง คสช. แต่วันนี้ต้องนำเอาคนที่ทำงานด้านความปรองดองเข้ามาทำหน้าที่ ขณะที่งานของภาคใต้ได้มอบหมายให้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รมช.ศึกษาธิการ เข้ามาสานต่องานจาก พล.อ.อุดมเดช เพราะเป็นเพื่อนกัน อีกทั้ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ก็ลงไปในพื้นที่มาโดยตลอด
ส่วนการปรับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ออกจากตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้มาจากความผิดพลาดจากการทำหน้าที่ในกระทรวงเกษตรฯ ที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อนงานและวางโครงสร้างให้ภาคการเกษตรมีความเข้มแข็ง และในวันนี้จะต้องทำงานเพิ่มเติมในระยะที่ 2 จึงต้องเอาคนที่มีความสามารถเช่นเดียวกันเข้ามาสานต่องาน โดยนำงานที่ พล.อ.ฉัตรชัย วางไว้มาดำเนินการต่อ
"การปรับ ครม.ครั้งนี้หวังว่าจะทำให้การบริหารราชการดีขึ้น จากเดิมที่ถือว่าดีอยู่แล้ว แต่อีกด้านหนึ่งก็ไม่ได้มีตัวเลือกมากมาย ไม่มีเรื่องของเพื่อนพ้องน้องพี่เข้ามาเกี่ยวข้อง"