จากสถานการณ์ ที่มีการตรวจพบเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดจำนวนหลายรายการ ใน จ.ฉะเชิงเทรา ได้ถูกนำมาเป็นปัจจัยที่ตอกย้ำว่า บ้านเมืองยังอยู่ในภาวะไม่สงบตามที่เคยประกาศไว้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรับมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้ดูแลสูงสุดงานด้านความมั่นคง ยังไม่มีคำอธิบายว่าการตรวจพบอาวุธจะทำให้การพิจารณาปลดล็อคเลื่อนออกไปหรือไม่ และยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าที่ประชุม คสช.ยังไม่มีการพิจารณาปลดล็อคพรรคการเมือง
โดยระบุว่า คสช.ได้พิจารณาประเมินสถานการณ์มาเป็นระยะๆ อยู่แล้ว ความเห็นในขณะนี้ เห็นว่าสถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย บ้านเมืองยังอยู่ระหว่างห้วงเวลาที่ยังไม่ควรมีความขัดแย้งทางการเมืองหรือทางอื่นใด กฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้งก็ยังไม่เรียบร้อย
พล.อ.ประวิตร ยังยืนยันอีกว่า เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้จัดฉากเรื่องอาวุธสงครามเพื่อสร้างสถานการณ์ตามที่มีการตั้งข้อสังเกต และเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในทุกเรื่อง แต่ยังให้ความหวังกับนักการเมืองว่า จะจัดการให้ทุกอย่างดำเนินการตามกฏหมายและเป็นไปตามโรดแมพที่รัฐบาลวางไว้
แต่กลับเป็นผู้บัญชาทหารบกที่ชี้ให้เห็นภาพชัดเจนว่า ช่วงเวลานี้ยังไม่เหมาะที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองเพราะอาจจะมีปัญหาอื่นๆตามมาได้ ตอกย้ำให้เห็นว่ายังไม่ใช่เวลาที่นักการเมืองจะออกมาเล่นบทของตัวเองได้
สอดรับกับ พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ประเมินว่าการที่นักการเมืองออกมาเรียกร้องถือเป็นบทบาทหน้าที่ที่เขาต้องทำ แต่ปัจจัยที่จะนำไปสู่การปลดล็อคทางการเมือง ต้องพิจารณาจาก 1.กรอบกฎหมาย และระยะเวลาดำเนินการ 2.สถานการณ์บ้านเมืองที่จะเดินไปตามกรอบกฎหมายมีความสงบเรียบร้อยหรือไม่ และ 3.องค์ประกอบอื่นๆ ก็อาจจะมีส่วนด้วย แต่ยังไม่ขออธิบายตรงนี้
ทางด้านพรรคเพื่อไทยที่ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ คสช. ปลดล็อคทางการเมือง และระบุวันเลือกตั้งที่ชัดเจน มาตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตุว่า การที่ คสช.ยังไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง โดยหยิบยกข้ออ้างเรื่องสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม เป็นข้ออ้างเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่ เพือหวังผลทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปและต้องการให้กลุ่มของตนเองอยู่ในอำนาจต่อไปนานที่สุดใช่หรือไม่
ถือเป็นช่วงที่สำคัญอีกช่วงหนึ่งที่สังคมจับตาว่า สถานการณ์ความไม่สงบตามที่ คสช.ได้ประเมินเอาไว้ จะเป็นเพียงเกมยื้อเวลา หรือทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป แต่หากจะนำเหตุผลเรื่องนี้ มาเป็นข้ออ้างที่ยังไม่ปลดล็อคทางเมือง คงเป็นเรื่องยาก เพราะการที่ให้นักการเมืองสามารถทำกิจการได้ สามารถประชุมพรรค หรือดำเนินกิจกรรมต่างตามกรอบเวลาที่กำหนด คงอาจไม่ใช่ปัจจัยที่จะกระทบต่อความสถานการณ์ความสงบในประเทศ
แต่อาจเป็นเพราะ คสช.ยังไม่มั่นใจว่า จะสามารถควบคุมสถานการณ์ทางเมืองได้มากกว่าหรือไม่ และในหลายๆครั้ง หัวหน้า คสช.มักตั้งคำถามกลับไปยังสังคมว่า ตลอด 3 ปีที่ คสช.และรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ เป็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองเกิดความสงบ ไม่มีการออกการชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตใช่หรือไม่ คงไม่มีใครให้คำตอบเรื่องนี้ได้ดีกว่า หัวหน้า คสช. ที่จะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ทั้งหมด
แต่หากจะหันกลับไปถาม นักการเมืองว่า “ปีใหม่ ปี2561 อยากได้อะไรเป็นของขวัญ" มั่นใจว่า ส่วนใหญ่คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้ คสช.ปลดล็อคโซ่ตรวนทางการเมืองตลอด 3 ปีที่ผ่านมาออกเสียที