นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวว่า ได้หารือกับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 ถึงข้อเสนอของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.ให้แก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 โดยได้ข้อสรุปว่าจะยังไม่มีการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากในบทเฉพาะกาลยังเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองสามารถยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองคือเลขาธิการ กกต.เพื่อขอให้ขยายเวลาเกี่ยวกับการปฏิบัติของพรรคการเมืองออกไปได้ แม้จะครบกำหนด 90 วันในวันที่ 5 ม.ค.61
เลขานุการวิป สนช.กล่าวว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ จะเชิญนายสุเทพ นายไพบูลย์ และ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ ดังกล่าวมาชี้แจงถึงปัญหาที่มีการอ้างว่าร่างกฎหมายดังกล่าวไม่เป็นธรรมในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ เวลา 13.00 น.ที่รัฐสภา
ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ สนช.จะเสนอแก้กฎหมายดังกล่าวด้วยตัวเองนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น เพราะบทบัญญัติของกฎหมายฉบับปัจจุบันยังมีทางออกสำหรับเรื่องดังกล่าว หากมีการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะมีขั้นตอนค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขภายใน 180 วัน อีกทั้งยังต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีก ซึ่งจะทำให้ไม่ทันกรอบเวลาในวันที่ 5 ม.ค.2561
กรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิชาฯ เสนอให้ผู้สมัคร ส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสมชาย กล่าวว่า เวลานี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากเป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชามติแล้ว ถ้าจะแก้ไขต้องมีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะเท่านั้น หากมีอะไรติดขัดขึ้นมาจริงๆ เช่น ติดขัดที่การปฏิบัติต้องแก้ที่ตัวกฎหมาย แต่ถ้ากฎหมายติดขัดแค่คำอธิบาย ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจ