นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหน้าที่ประธานการประชุม สนช.เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.... ในวาระ 2 ต่อเนื่องจากวานนี้(21 ธ.ค.) โดยที่ประชุมยังคงอภิปรายในประเด็นการเพิ่มอำนาจให้กรรมการ ป.ป.ช. สามารถตรวจสอบข้อมูลอิเล็คทรอนิกส์ โทรศัพท์ โทรสาร หรืออุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อื่นๆ ของผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตต่อหน้าที่ หรือร่ำรวยผิดปกติได้ ซึ่งเป็นบทบัญญัติใหม่ที่กรรมาธิการฯ บัญญัติเพิ่ม แต่สมาชิก สนช. ส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย
"ขณะนี้มี 3 กลุ่มคือ กรรมาธิการเสียงข้างมาก กรรมาธิการเสียงข้างน้อย และสมาชิกสนช.ที่อภิปรายในประเด็นดังกล่าว ดังนั้น ตนจะให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มอภิปรายสรุปอีกครั้ง โดยระหว่างนี้ให้คณะกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย ได้หารือกันถึงทางออก"
พล.ต.อ.ชัชวาล สุขสมจิตร์ ประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กล่าวภายหลังการหารือนอกรอบเป็นการภายในระหว่างกรรมาธิการเสียงข้างมากและกรรมาธิการเสียงข้างน้อ นานกว่า 15 นาทีว่า การดักฟังถือเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็น แต่กรรมาธิการฯ ไม่ต้องการให้สภาฯ เสียเวลากับปัญหาดังกล่าว อีกทั้งเห็นว่าขณะนี้เวลายังไม่เหมาะสม แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นก็ตาม แต่เมื่อมีข้อกังวลว่าอาจจะเกิดผลกระทบในวงกว้างได้ ไม่อยากให้บานปลายออกไป ตนในฐานะประธานกรรมาธิการฯ จึงเห็นควรให้ถอนมาตรา 37/1 รวมถึงมาตรา 37/2 และมาตรา 37/3 ออกไปก่อน นอกจากนี้ เมื่อถอนมาตราดังกล่าวออกไปแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรา 36 ของรัฐธรรมนูญอยู่ในคำปรารภ ดังนั้น ขอให้ตัดตรงนี้ออกไปด้วย เพื่อที่สมาชิกสนช.จะได้สบายใจว่าไม่มีอะไรที่ยังหลงเหลืออยู่อีกต่อไปด้วย