พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้โอวาทกับเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี เรียนดี มีคุณธรรมจริยธรรม ซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด กตัญญู และอุทิศตนเพื่อส่วนรวม จำนวน 550 คน ตลอดจนเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติใน 5 ด้าน จำนวน 235 คน รวม 785 คน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 โดยกล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการพัฒนาด้านการเรียนรู้ในหลายกิจกรรม เพราะความรู้ที่ได้รับจากการศึกษามีความสำคัญต่อการประกอบอาชีพ แต่ที่สำคัญกว่าคือการเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมอนาคต ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรู้ให้เท่าทัน
ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนที่มาอยู่ตรงนี้หลายต่อหลายรุ่นถือว่ามีคุณภาพ โดดเด่น ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ จึงต้องติดตามบุคคลเหล่านี้ว่าในอนาคตพวกเขาไปอยู่ในจุดไหน เพราะจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาต่อเนื่องในทุกด้าน รวมไปถึงด้านการเมือง ซึ่งส่วนตัวไม่ได้เกลียดการเมือง จึงขออย่ารังเกียจการเมือง เพราะในอนาคตบางส่วนก็อาจจะได้เข้าไปอยู่การเมือง และประชาชนทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล สร้างนักการเมืองหน้าใหม่ แทนคนเก่าที่อายุมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังฝากถึงการใช้โซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีของเด็กและเยาวชนว่า ต้องระมัดระวัง มีภูมิคุ้มกันที่ดี รู้เท่าทัน สามารถแยกแยะได้ ใช้เท่าที่จำเป็นและให้เกิดประโยชน์ ขณะเดียวกันต้องรู้จักวางแผนการใช้ชีวิต คำนึงถึงหนี้สิน และให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว รวมทั้งนำความรู้ไปพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนของตัวเอง
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ร่วมกันปลูกฝังในสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องของวัฒนธรรมและสังคม เช่น การไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ อ่อนน้อมถ่อมตน กตัญญู มีระเบียบวินัย รู้ผิดชอบชั่วดี ซื่อสัตย์ ใช้เหตุผล ที่สำคัญต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ชาติดำรงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นหลักชัยของประเทศที่ต้องรักษาไว้ ดังนั้นจงภูมิใจในความเป็นไทยและเติบโตขึ้นไปเป็นคนเก่งและคนดี
ขณะเดียวกัน รัฐบาลคาดหวังให้คนไทยรู้กฎหมาย ทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูก และกฎหมายต่างๆ โดยเบื้องต้นให้กระทรวงยุติธรรม จัดทำเป็นอินโฟกราฟฟิคออกมาเพื่อความเข้าใจง่าย ก่อนจะทำสำเนาให้กระทรวงศึกษาธิการนำไปสอนเป็นวิชาเสริมในโรงเรียนและสถาบันการศึกษา เพราะหากไม่เข้าใจกฎหมายแล้ว สังคมก็จะปั่นป่วนมีความขัดแย้งไม่จบสิ้น ดังนั้นการจะทำอะไรต้องรู้กฎหมาย จะได้ไม่มาพูดว่ารังแกฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ เพราะกฎหมายมีไว้ให้สังคมสงบ ไม่ได้มีไว้ทำร้ายใคร และส่วนตัวในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยคิดจะใช้กฎหมายไปทำร้ายใคร
หลังให้โอวาทเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้ทักทายกับเด็กและเยาวชน ก่อนจะชมผลงานของเด็กและเยาวชนที่นำมาจัดแสดง และมอบให้ ทั้งภาพวาดและภาพถ่าย พล.อ.ประยุทธ์ ในอิริยาบทต่างๆ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายรูปกับเด็กและเยาวชนด้วย
"ได้ให้แนวทางว่าต้องพัฒนาเด็กทั้งประเทศให้ได้ บนพื้นฐานความแตกต่างซึ่งกันและกัน และขอแสดงความยินดีกับเด็ก ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ ที่สอนสั่งให้เด็กได้รับรางวัลได้รับการยอมรับ เพราะประเทศเราต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง" นายกรัฐมตรีกล่าว
พร้อมระบุว่า หากใครต้องการสอบถามเรื่องใด ไม่ว่าจะเป็นการเมือง หรือปัญหาความขัดแย้ง หรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ให้ถ่ายกับสแตนดี้ โดยให้เจ้าหน้าที่นำมาตั้งไว้ตรงไมโครโฟนจุดให้สัมภาษณ์ ก่อนจะเดินยิ้มโบกมือลา และทำมือเป็นสัญลักษณ์ ไอ เลิฟ ยู สร้างเสียงหัวเราะให้สื่อมวลชนและผู้ปกครองที่มารออย่างครึกครื้น