พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) และในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการรับฟังความเห็น กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการเสนอร่างกฎหมายเพื่อปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ 2 ฉบับให้กับรัฐบาล ได้แก่ 1.ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงโครงสร้างการทำงานและบุคลกรภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2.ร่างกฎหมายแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยจะปรับปรุงกระบวนการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบ เช่น การสอบสวนคดีจะต้องทำโดยพนักงานสอบสวนที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความสามารถเป็นสำคัญ รวมไปถึงการสร้างระบบตรวจสอบถ่วงดุล
ด้านพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปฯ กล่าวว่า ภาพรวมการทำงานของคณะกรรมการฯ จะเหลือประมาณ 3 เดือน โดยจะสิ้นสุดลงในเดือน เม.ย.61 โดยการทำงานส่วนใหญ่มีความคืบหน้าตามลำดับและคิดว่างานทุกอย่างน่าจะเสร็จทันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
สำหรับประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างเรื่องการปฏิรูประบบงานสืบสวนสอบสวนนั้น ยอมรับว่ามีความซับซ้อน ที่สำคัญจะต้องให้สอดคล้องกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในภาพใหญ่ที่มีนายอัชพร จารุจินดา เป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมด้วย ซึ่งคณะนี้จะดูการปฏิรูปในภาพใหญ่ซึ่งรวมไปถึงระบบการสืบสวนสอบสวน ดังนั้นในส่วนของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจจะเน้นการสร้างการถ่วงดุลการสืบสวนสอบสวนภายในของตำรวจด้วยกันเองเป็นหลัก เช่น การวางตัวของผู้บังคับบัญชาว่าจะควรจะต้องมีความเหมาะสมอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นพนักงานสอบสวน รวมไปถึงการให้พนักงานสอบสวนสามารถเติบโตในหน้าที่การงานในสายงานของตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งอำนาจของผู้มีอิทธิพล ซึ่งอาจจะกำหนดให้ผู้บังคับบัญชาที่จะเข้ามาควบคุมพนักงานสอบสวนจะต้องมาจากสายงานเดียวกัน ไม่ใช่เป็นบุคคลที่มาจากสายงานอื่น ซึ่งถ้าทำได้อย่างนี้จะทำให้พนักงานสอบสวนสามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ และสามารถเติบโตได้ถึงระดับสูงสุดในตำแหน่ง ผบ.ตร.
"เมื่อมีการปฏิรูปแล้ว ส่วนตัวคิดว่าปัญหาการซื้อขายตำแหน่งน่าจะได้รับการแก้ไขในทางที่ดีขึ้น เพราะการปฏิรูปเราจะออกแบบให้คนดีเข้ามาเป็นผู้มีอำนาจและไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาเป็นผู้ใช้อำนาจ จึงคิดว่าในภาพรวมน่าจะดีขึ้น" พล.อ.บุญสร้าง กล่าว