นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 กล่าวว่า การเข้าชื่อเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) กรณียกเว้นลักษณะต้องห้ามเพื่อให้กรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งต่อไปตามที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เสนอว่า ส่วนตัวเห็นว่าหากสังคมสงสัยแล้วสามารถทำให้ข้อสงสัยได้ข้อยุติก็จะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย รวมถึงต่อการทำงานของ ป.ป.ช.ในอนาคตเพื่อไม่ให้มีข้อครหา แต่ควรจะแก้ไขก่อนที่จะมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ จะได้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าว สมาชิก สนช.คงต้องพูดคุยกันเอง และควรจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญก่อนที่ประธาน สนช.จะเสนอร่างกฎหมายให้กับนายกรัฐมนตรี โดยสมาชิก สนช.จะยื่นผ่านประธาน สนช.หรือจะดำเนินการเองได้
อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่า เมื่อผ่าน 15 วันในขั้นตอนการโต้แย้งแล้ว ประธาน สนช.จะต้องเสนอร่างกฎหมายต่อให้นายกรัฐมนตรีภายในกี่วัน ดังนั้นระหว่างนี้ถ้าสมาชิก สนช.ยังติดใจก็ถือว่าเป็นสิทธิที่จะเข้าชื่อกันจำนวน 25 คนขึ้นไปเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้