พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเรื่องที่เป็นวาระเร่งด่วนและการแก้ไขปัญหาการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีความชัดเจนมากขึ้น และการจัดการกองเรือ วิธีการ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขต่างๆ รวมทั้งการติดตาม ควบคุม เฝ้าระวังเรือประมงในน่านน้ำสากล ส่วนน่านน้ำภายในประเทศได้ดำเนินแก้ไขปัญหาเรือประมงที่มีจำนวนมากเกินไป ตามแผนบริหารจัดการประมงไทย เพื่อไม่ให้กระทบกับชาวประมง รวมทั้งการออกใบอนุญาตการทำประมงปี 2561 ซึ่งกรมประมงกำลังดำเนินการทำหลักเกณฑ์เสนอคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางเดือนมกราคมนี้
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ส่วนการดูแลแรงงานต่างด้าว ได้ดำเนินการอำนวยความสะดวกให้กับแรงงาน โดยกำหนดให้นายจ้างจ่ายเงินให้กับลูกจ้างผ่านระบบบัญชี ซึ่งขณะนี้ได้มีการติดตั้งตู้ ATM เพิ่มเติม และให้ครอบคลุมทุกภาษาของแรงงานต่างด้าว นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการลงทะเบียนวิทยุเรือประมง ซึ่งขณะนี้ กสทช.ได้ขยายเวลาการลงทะเบียนจนถึงวันที่ 22 เมษายน 2561 จึงขอความร่วมมือให้เรือประมงที่มีเครื่องวิทยุไว้ครอบครอง และยังไม่ได้ลงทะเบียน เข้ามาลงทะเบียนภายในวันดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้ กสทช.จะดำเนินการอบรมให้ความรู้กับชาวประมงมากขึ้นต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ได้มีการดำเนินการให้สอดคล้องกับการพัฒนากฎหมายเพื่อรองรับ อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 29 ว่าด้วยแรงงานในภาคประมง ในการกำหนดฐานความผิด และบทลงโทษที่เหมาะสม รวมถึงกระบวนการคุ้มครองเยียวยาผู้เสียหายจากการบังคับที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรับฟังความคิดเห็น และให้กระทรวงแรงงานจัดทำประชาพิจารณ์กับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับความสมบูรณ์ของกฎหมาย เมื่อกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านมติคณะรัฐมนตรีแล้ว ทั้งนี้การดำเนินการจะต้องคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน และสิทธิแรงงานให้มากขึ้น เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการใช้แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ การเอารัดเอาเปรียบด้านแรงงานที่ไม่เหมาะสม
ด้านพ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะประเภทรถแท็กซี่ว่า กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบกได้มีการรายงานในที่ประชุมเกี่ยวกับการจัดทำโครงการแท็กซี่โอเค และโครงการแท็กซี่วีไอพี ซึ่งได้มีการออกกฎระเบียบและประกาศ เพื่อรองรับโครงการดังกล่าวและทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ในหลายด้าน โดยในส่วนของแท็กซี่โอเคที่จดทะเบียนใหม่จะต้องติดตั้งระบบจีพีเอส ปุ่มฉุกเฉิน และเครื่องแสดงแอพพลิเคชั่น ซึ่งทางกรมการขนส่งฯจะมีการเปิดตัวโครงการแท็กซี่โอเคในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ ส่วนแท็กซี่เก่าที่สมัครใจจะเข้าร่วมโครงการสามารถนำรถไปติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวได้เช่นกัน
ทั้งนี้ เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน สามารถใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น เพื่อลดปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารและสามารถตรวจสอบค่าเดินทางผ่านแอพพลิเคชั่นได้ ทั้งนี้กรมขนส่งฯได้มีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการรถแท็กซี่ และจัดตั้งศูนย์บริการสื่อสารรถยนต์รับจ้างที่เป็นของภาคเอกชนไปแล้ว 12 ศูนย์