พล.ร.อ.ธราธร ขจิตสุวรรณ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวขณะนี้ กมธ.พิจารณาประเด็นต่างๆ ไปมากพอสมควร โดยประเด็นที่มีสนช.ขอแปรญัตติส่วนใหญ่ ได้แก่ มาตรา 11 เรื่องการแบ่งกลุ่มอาชีพของผู้สมัคร ส.ว.ที่เห็นว่าควรปรับลดเหลือ 5-10 กลุ่มอาชีพ จากเดิมที่มี 20 กลุ่มอาชีพ และมาตรา 40-42 เรื่องวิธีเลือกไขว้ในกลุ่มอาชีพของผู้สมัคร ส.ว.ที่มีผู้แปรญัตติหลายคน อาทิ นายสมชาย แสวงการ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ เสนอให้ใช้วิธีเลือกกันเองในแต่ละกลุ่มอาชีพแทนวิธีการเลือกไขว้
โดยขณะนี้ กมธ.กำลังรับฟังเหตุผลเพื่อชั่งน้ำหนักว่าจะมีการปรับเปลี่ยนที่มาส.ว.เป็นการเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพหรือไม่ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้ยืนตามหลักการที่ กรธ.เสนอมา โดยในวันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.) กมธ.จะหารือในประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง และคาดว่าในวันที่ 22 ม.ค.จะได้ข้อสรุป เพื่อส่งร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้บรรจุเข้าสู่วาระประชุม สนช.ในวันที่ 25 ม.ค.ต่อไป
พล.ร.อ.ธราธร ยังกล่าวด้วยว่าหาก กมธ.เปลี่ยนวิธีเลือกส.ว.จากเลือกไขว้มาเป็นการเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ จะไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือเจตนารมณ์ของกรธ.ที่ยืนยันมาตลอดให้ใช้วิธีเลือกไขว้ เพราะมาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญระบุชัดเจนถึงการเลือกส.ว.ให้ใช้วิธีเลือกกันเอง ไม่ได้บอกให้เลือกไขว้
"ถ้ามีการแก้ไขวิธีการเลือกส.ว. ก็ไม่ถือเป็นการหักหน้า กรธ. เพราะเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ หากต้องเปลี่ยนวิธีมาเป็นการเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ อาจจะต้องลดกลุ่มอาชีพให้เหลือไม่ถึง 20 กลุ่มอาชีพ โดยมีผู้เสนอแปรญัตติว่าอาจจะให้สมัครโดยอิสระ หรือสมัครโดยกลุ่มองค์กรเป็นผู้เสนอชื่อมา" พล.ร.อ.ธราธร ระบุ