กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “เส้นทางการเลือกตั้งสู่ประชาธิปไตยไทยนิยม" พบว่า เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งที่ต้องมีสมาชิกพรรคครบ 500 คน มีทุนประเดิมจำนวน 1 ล้านบาท ประชาชนร้อยละ 43.9 เห็นว่าจะสร้างระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ เน้นพรรคมากกว่าตัวคน รองลงมาร้อยละ 29.6 เห็นว่าจะขาดความหลากหลายของนโยบายการหาเสียง และร้อยละ 29.1 เห็นว่าจะนำไปสู่ระบบผูกขาดทางการเมือง
นอกจากนี้เมื่อถามต่อว่าคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ในเรื่องการสรรหานายกฯ คนนอก ตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.6 เห็นว่านายกฯ ควรมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ขณะที่ร้อยละ 29.4 เห็นว่านายกฯ มาจากคนนอกได้หากไม่สามารถเลือกกันเองได้ ด้านความเห็นต่อการจัดมหรสพ รื่นเริง ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง สส. พบว่า ประชาชนร้อยละ 41.5 เห็นว่าอาจเปิดช่องโกง แสวงหากำไรและผลประโยชน์ รองลงมาร้อยละ 40.5 เห็นว่าพรรคใหญ่ๆ จะได้เปรียบเพราะมีทุนมากกว่า และร้อยละ 37.3 เห็นว่าจะทำให้ประชาชนสนใจการเมือง รับรู้ข่าวสารของผู้สมัครได้ทั่วถึง
ส่วนเมื่อถามว่า “คิดอย่างไรกับแนวคิดประชาธิปไตยไทยนิยม" พบว่า ประชาชนร้อยละ 29.1 เห็นว่าจะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ เลย รองลงมาร้อยละ 27.9 เห็นว่าจะทำให้กลายเป็นประชาธิปไตยกึ่งรัฐบาลทหาร และร้อยละ 22.5 เห็นว่าทำให้คนปรองดองไม่ขัดแย้ง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
สุดท้ายเมื่อถามว่า “หากวันนี้ มีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านจะออกเสียงสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่" พบว่า ประชาชนร้อยละ 36.8 ระบุว่าจะ “สนับสนุน" (ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ร้อยละ 16.0) ขณะที่ร้อยละ 34.8 ระบุว่าจะ “ไม่สนับสนุน" ส่วนร้อยละ 28.4 งดออกเสียง
กรุงเทพโพลล์ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,114 คน