พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - อินเดีย ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย และรับเชิญเป็นแขกเกียรติยศร่วมกับผู้นำอาเซียน ในงานวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดีย ครั้งที่ 69 ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2561 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
สำหรับวัตถุประสงค์สำคัญของการประชุมสุดยอดอาเซียน - อินเดีย ในโอกาสครบรอบ 25 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย ว่า เป็นข้อริเริ่มของอินเดีย ที่มุ่งประกาศเจตนารมณ์ทางการเมืองที่จะสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอินเดียและอาเซียน โดยเมื่อการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 ณ กรุงมะนิลาที่ผ่านมา อินเดียได้เสนอแนวคิดอินโด-แปซิฟิก เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างภูมิภาค ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของอาเซียนทีต้องการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่างอาเซียนและอินเดีย ในฐานะแหล่งผลประโยชน์ทั้งด้านการค้า การลงทุน และด้านการทูตให้กับประชาคมอาเซียน ในโอกาสนี้ อินเดียยังได้เชิญผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ชาติ เป็นแขกเกียรติยศ ในงานวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดียในวันที่ 26 มกราคม นี้
การประชุมฯ ครั้งนี้ เอกสารผลลัพธ์สำคัญ คือ ปฏิญญาเดลี ที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับภาพรวมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอาเซียนและอินเดีย ทั้งมิติการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันและการลดช่องว่างด้านการพัฒนา
ทั้งนี้ ไทยได้สนับสนุนให้หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนและอินเดียพัฒนาให้เต็มศักยภาพ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของอาเซียนและอินเดีย สร้างเสถียรภาพและความสมดุลในพื้นที่มหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่านโยบายรุกตะวันออก (Act East Policy) ของอินเดียสามารถดำเนินคู่ขนานไปกับแนวทางของไทยที่มีนโยบายมุ่งตะวันตก (Look West Policy) ซึ่งอินเดียเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญของไทย ทั้งการค้า การลงทุน และยังเป็นตลาดท่องเที่ยวที่สำคัญ ขณะเดียวกันไทยเองก็เป็นจุดเชื่อมโยงกายภาพระหว่างอินเดียและอาเซียน ทั้งทางบก ผ่านโครงการถนนสามฝ่าย (อินเดีย-เมียนมา-ไทย) และทางทะเล อาทิ โครงการท่าเรือ เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายด้วย
สำหรับภารกิจของนายกรัฐมนตรีนั้น ประกอบด้วย การหารือทวิภาคีกับนายนเรนทร โมที (Mr. Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย และกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน - อินเดีย อย่างไม่เป็นทางการ (Retreat) และการประชุมสุดยอดอาเซียน - อินเดีย เต็มคณะ (Plenary) รวมทั้งเป็นแขกเกียรติยศร่วมกับผู้นำชาติอาเซียนในวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดียด้วย